Non-Farm Payroll

ตัวเลข Non-Farm Payroll หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร จะวัดจำนวนคนงานในสหรัฐอเมริกา ยกเว้นคนงานในภาคเกษตรกรรม ครัวเรือนส่วนตัว พนักงานองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และทหารที่ประจำการ โดยรายงานจะจัดทำโดย สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) โดยจะสำรวจหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนของพวกเขา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะถูกรายงานต่อสาธารณะทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือน


เรามาทำความเข้าใจเรื่อง Nonfarm Payroll กันจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ การจัดประเภทพนักงานนอกภาคเกษตรคิดเป็นประมาณ 80% ของภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนทำให้เกิดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ดังนั้นการรายงานตัวเลขนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น


ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) : หากตัวเลขที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ มักทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพราะจะสื่อถึงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนตัวลง


ตลาดหุ้น : หากรายงานตัวเลขที่ออกมาแข็งแกร่ง อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เพราะมันบ่งบอกถึงความเจริญทางเศรษฐกิจและความสามารถของบริษัทในการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ถ้าตัวเลขสูงเกินไป อาจทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น ก็สามารถส่งผลลบต่อหุ้นได้


ทองคำ (XAUUSD) : ทองคำมักจะมีความสัมพันธ์ทางลบกับค่าเงินดอลลาร์ หากค่าที่ออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำร่วงลง ในทางกลับกัน หากรายงานตัวเลขต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้


โดยรายงานในเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขออกมาที่ 114 K ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มากพอสมควร โดยในสัปดาห์นี้ตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ออกมาที่ 164 K ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากตัวเลขจริงที่ออกมาเมื่อเดือนที่แล้วพอสมควร ซึ่งมุมมองจากค่าคาดการณ์อาจสื่อถึงการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องระวังเนื่องจากเดือนก่อนหน้าค่าที่ออกมาต่ำมาก ทำให้ในครั้งนี้เราต้องจับตาดูตัวเลขที่ออกมาให้ดีว่าจะผิดจากที่ตลาดคาดการณ์มากอีกหรือไม่


โค้ชนนท์

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

ข่าววันที่ 27/11/2024 : รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยเป็นการที่นับรายได้ที่เกิดขึ้นจากในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตาม โดย GDP จะนับการคำนวณเฉพาะรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศเท่านั้น ไม่นับรายได้ที่ต่างประเทศ ถ้าหากค่า GDP ออกมาเป็นบวก แสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการเติบโตขึ้น มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น แต่สิ่งที่อาจตามมาได้ คือ อัตราเงินเฟ้อที่อาจจะสูงขึ้นได้เช่นกัน เพราะเมื่อคนมีความต้องการซื้อกันมากขึ้น สามารถดันให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นมาได้ ถ้าหากค่า GDP ออกมาเป็นลบ แสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวลง มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศลดลง อย่างไรก็ตาม เมื่อ GDP คือ ค่าที่ใช้วัดความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ถ้าหากค่า GDP ประเทศสหรัฐอเมริกา ออกมาที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้จะถือว่าเป็นลักษณะเชิงบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะกดดันให้ราคาทองปรับตัวลงได้ และในขณะที่ค่า GDP ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ถือว่าเป็นลักษณะเชิงลบ สำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ ในคืนนี้ ค่า GDP ที่จะประกาศออกมาจะเป็นค่า GDP แบบ Preliminary ซึ่งเป็นตัวเลขที่เกิดจากการเก็บข้อมูลดิบ โดยตัวเลขที่จะประกาศวันนี้จะเป็นตัวเลขที่ไม่ใช่ Final GDP ทำให้ส่งผลต่อความผันผวนของราคาอาจจะยังไม่รุนแรงมากถ้าหากไม่ผิดคาดการณ์มากนัก โดยภาพรวมคาดการณ์ GDP ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ที่ 2.8% ซึ่งถือว่าปรับตัวลดลงจากรอบ Final รอบที่แล้วเล็กน้อยด้วย โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

ข่าว Existing Home Sales 21/11/2024

รายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เป็นตัวเลขวัดการเปลี่ยนแปลงในจำนวนอาคารที่อยู่อาศัยมือสองทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดที่ถูกซื้อขายในเดือนที่ผ่านมา จัดทำโดย National Association of Realtors ซึ่งในรายงานจะแบ่งเป็นยอดขายและราคาขายในแต่ละโซนตามภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกา (Northeast, Midwest, South, West) โดยรายงานนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์และเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดถึงความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ พิจารณาเรื่องการปรับขึ้น หรือ ลดอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนี้จะเป็นสิ่งที่ส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งกระทบในทางลบต่อราคาทองคำโดยตรง และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอีกด้วย สำหรับตัวเลข Existing Home Sales ประจำเดือนกันยายนนี้ที่จะรายงานในคืนนี้ ถูกคาดการณ์ไว้ที่ 3.94 ล้านยูนิต ซึ่งคาดว่าจะมีปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งค่าออกมาที่ 3.84 ล้านยูนิตเล็กน้อย ทั้งนี้ถ้าดูจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่เเล้วที่ออกมาไม่ต่างจากคาดการณ์มากนัก ก็ส่งผลให้สามารถมองว่าตัวเลขยอดขายบ้านมือสองนี้ อาจออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ได้ครับ บทความโดย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน

Core Retail Sales หรือ การรายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน 15/11/2024

Core Retail Sales หรือ การรายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน ถือเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุด ที่บ่งชี้ถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค คือเป็นมูลค่ายอดขายสินค้า หรือบริการให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเป็นรายงานที่จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของยอดขายในธุรกิจขายปลีกทั้งหมดในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ เช่น ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย ของตกแต่งบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม และอีกมากมาย แต่จะยกเว้นยอดขายของบริษัทรถยนต์และน้ำมัน โดยรายงานยอดค้าปลีกพื้นฐานนี้ จะเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญมาก และยังสามารถบ่งบอกแนวโน้มการขยายตัว หรือหดตัว ของเศรษฐกิจในอนาคตได้ด้วย โดยตัวเลขที่ออกมาหากมีค่าดีกว่าคาดการณ์จะเป็นผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้น เนื่องจากยอดขายของแต่ละบริษัทก็จะมีแนวโน้มดีขึ้นด้วย แต่ในทางกลับกัน ก็จะกดดันราคาทองให้เกิดการปรับตัวลงได้เช่นเดียวกัน ในทางกลับกัน หากค่าที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ก็จะกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทอง ทำให้ราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ในการรายงานครั้งที่ผ่านมา ตัวเลขยอดขายปลีกพื้นฐานออกมามากกว่าคาด ที่ 0.5% ซึ่งถือว่าเติบโตเยอะพอสมควร ซึ่งในส่วนของคืนนี้ค่าประมาณการที่ตลาดคาดจะอยู่ที่ 0.2% เท่าเดิมแสดงถึงมุมมองของนักลงทุนมองว่ายอดขายปลีกพื้นฐานอาจจะยังขยายตัวอยู่แต่ขยายตัวในระดับที่น้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยครับ บทความโดย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน
Message us