Job Openings and Labor Turnover Survey

คือการรายงานหรือการสำรวจตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาเป็นรายเดือน ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการบ่งบอกอัตราตำแหน่งว่างงานในเดือนนั้นๆ โดยข้อมูลที่ประกาศออกมาจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ว่างในตลาดแรงงาน รวมถึงการหมุนเวียนแรงงาน โดยตัวเลขตำแหน่งว่างงานจะเป็นตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดรับสมัคร ในวันทำการสุดท้ายของเดือน ซึ่งไม่รวมฝั่งอุตสาหกรรมการเกษตร โดยตัวเลขนี้จำชี้วัดตำแหน่งงานที่ว่าง ที่ยังไม่ได้รับการจ้างคนเข้าไปทำงาน


ตัวเลข JOLTs นี้มีความสำคัญคือการให้ภาพรวมที่คลอบคลุมของตลาดแรงงานมากกว่าข้อมูลอัตราว่างงานรายสัปดาห์ มักจะถูกใช้เป็นหนึ่งในมาตรวัดสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นเราจะเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่มีประกาศตัวเลขนี้ กราฟมักจะมีความผันผวนเสมอ ซึ่งหากค่าประกาศออกมามากกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานน้อยกว่าคาด จะเป็นการส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงได้ แต่หากค่าออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานมากกว่าที่คาด จะเป็นการกดดันค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะเป็นผลบวกต่อทอง
จากตัวเลขที่ออกมาล่าสุด

จะเห็นว่าตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐนั้นมีการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแสดงถึงภาพรวมว่าตลาดแรงงานนั้นอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะตัวเลขรอบก่อนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์พอสมควร โดยในวันนี้ ค่าที่คาดการณ์ออกมาจากนักวิเคราะห์มองว่าจะตำแหน่งว่างงานใหม่มีโอกาสลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 7.640 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถ้าออกมาตามคาดจริงก็จะแสดงถึงว่าตลาดแรงงานจะอ่อนเเอลงเล็กน้อย ดังนั้นเราอยากให้โฟกัสตัวเลขที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ให้ดีหากมีการผิดคาด เพราะตัวเลขภาคแรงงานจะเป็นตัวเลขที่ทาง FED ต้องหันมาโฟกัสมากขึ้นเพราะจะส่งผลต่อการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางเดือนพอสมควร


นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI : Producer Price Index)

ดัชนี PPI เป็นดัชนีที่ใช้เป็นตัวประเมินอัตราเงินเฟ้อในระดับผู้ผลิต โดยเฉพาะในระดับอุตสาหกรรมหรือผลิตภัณฑ์ และยังช่วยปรับมูลค่าการผลิต มูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายขั้นกลางจากราคาปัจจุบัน เพื่อใช้วัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของเศรษฐกิจที่เป็นผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั้งภาวะเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิต ภาวะการค้าของประเทศ งบประมาณรายจ่ายและนโยบายทางการเงิน นโยบายการผลิตและตลาด และการปรับสัญญาซื้อขายในระยะยาว แม้ว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) กับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะสามารถชี้ให้เห็นถึงระดับเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจเหมือนกัน แต่ทั้ง 2 ดัชนีนี้ก็มีความแตกต่างกัน คือ PPI จะเป็นเครื่องมือที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการจากฝั่งผู้ผลิต ซึ่งตัวเลข PPI จะสามารถวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาก่อนที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าและบริการขั้นสุดท้าย ขณะที่ CPI เป็นเครื่องมือที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการจากฝั่งผู้บริโภคเท่านั้น โดยสรุปแล้ว ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ก็คือหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อที่มาจากฝั่งผู้ผลิต แต่ส่งผลกระทบไปทุกระดับ ทั้งผู้ผลิตเอง ผู้ขนส่ง จนถึงผู้บริโภค อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจด้วย โดยตัวเลขที่ผ่านมาในช่วงเดือนก่อนหน้า จะเห็นว่าค่าจริงที่ออกมา 0.2% ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มจากทางฝั่งผู้ผลิตยังคงปรับตัวขึ้นอยู่ โดยตัวเลขคาดการณ์ในครั้งนี้อยู่ที่ 0.1% ลดลงเล็กน้อยจากค่าจริงในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นมุมมองจากนักวิเคราะห์ว่าต้นทุนจากฝั่งผู้ผลิตมีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อย ซึ่งรอบเดือนที่แล้วที่ประกาศตัวเลข PPI ออกมา พฤติกรรมราคาทองคำจะปรับตัวรุนแรงขึ้นเป็น Trend ดังนั้น วันนี้เราก็อยากให้เทรดเดอร์ทุกท่านติดตามตัวเลขที่จะประกาศออกมาในคืนนี้อย่างใกล้ชิดด้วยครับ โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน

ตัวเลข Non-Farm Payroll หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร

ตัวเลข Non-Farm Payroll หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร จะวัดจำนวนคนงานในสหรัฐอเมริกา ยกเว้นคนงานในภาคเกษตรกรรม ครัวเรือนส่วนตัว พนักงานองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และทหารที่ประจำการ โดยรายงานจะจัดทำโดย สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) โดยจะสำรวจหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนของพวกเขา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะถูกรายงานต่อสาธารณะทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือนเรามาทำความเข้าใจเรื่อง Nonfarm Payroll กันจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ การจัดประเภทพนักงานนอกภาคเกษตรคิดเป็นประมาณ 80% ของภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนทำให้เกิดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ดังนั้นการรายงานตัวเลขนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่นค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) : หากตัวเลขที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ มักทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพราะจะสื่อถึงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนตัวลงตลาดหุ้น : หากรายงานตัวเลขที่ออกมาแข็งแกร่ง อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เพราะมันบ่งบอกถึงความเจริญทางเศรษฐกิจและความสามารถของบริษัทในการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ถ้าตัวเลขสูงเกินไป อาจทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น ก็สามารถส่งผลลบต่อหุ้นได้ทองคำ (XAUUSD) : ทองคำมักจะมีความสัมพันธ์ทางลบกับค่าเงินดอลลาร์ หากค่าที่ออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำร่วงลง ในทางกลับกัน หากรายงานตัวเลขต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้โดยรายงานในเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขออกมาที่ 142 K ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มากพอสมควร โดยในสัปดาห์นี้ตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ออกมาที่ 148 K ตำแหน่ง ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากตัวเลขจริงที่ออกมาเมื่อเดือนที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งมุมมองจากค่าคาดการณ์อาจสื่อถึงการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มมากขึ้นที่เป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากทาง FED จะเริ่มหันมาจับตามองเกี่ยวกับตลาดแรงงานมากขึ้น Non-Farm Payroll 04/10/2024 โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

รายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคณะกรรมการการประชุม (CB Consumer confident)

รายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคคณะกรรมการการประชุม (CB Consumer confident) เป็นตัวเลขวัดระดับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ โดยรายงานนี้จะเป็นดัชนีสำคัญที่ทำนายการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยค่าตัวเลขที่สูงขึ้น แสดงให้ถึงความกล้า และความสามารถในการบริโภคที่มากขึ้น ซึ่งถือเป็นแหล่งสำคัญของข้อมูลทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นค่าที่สามารถใช้คาดการณ์ถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจของทางฝั่งผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ยังเป็นค่าที่สามารถสะท้อนถึง GDP ที่จะประกาศออกมาในอนาคตได้อีกด้วย การคำนวณดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคนั้น จะใช้วิธีสำรวจโดยการใช้แบบสอบถาม ทั้งที่มีการสัมภาษณ์ ตัวต่อตัว และการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ซึ่งจะแบ่งหัวข้อแบบสอบถามเป็นสามหัวข้อหลักคือ ข้อมูลทั่วไป ข้อมูลความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสถานการณ์อนาคต และข้อเสนอแนะ ก่อนที่จะนำเอาคำตอบไปประมวลผลออกมาเป็นตัวเลข โดยมีค่าระหว่าง 0 – 100 ค่ากลางที่ 50 กรณีที่ค่ามากกว่าค่ากลาง บ่งบอกถึงฝั่งผู้บริโภคยังมีความมั่นใจสูงอยู่ แต่หากตัวเลขมีค่าน้อยกว่า 50 หมายถึงความมั่นใจของผู้บริโภคต่ำ ในบางประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตได้ดีมากๆ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็มีโอกาสที่จะมีค่าเกิน 100 ได้ด้วยเช่นกัน โดยการสอบถาม จะมีการเลือกพื้นที่แบบคลอบคลุมทั้งประเทศก่อนค่อยทำการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างตามอาชีพ และหมุนเวียนกลุ่มตัวอย่างตลอด สำหรับตัวเลข CB Consumer confident ประจำเดือนที่จะรายงานในคืนนี้ ถูกคาดการณ์ไว้ที่ 103.5 ซึ่งคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ผ่านมาที่ 103.3 เล็กน้อย ทั้งนี้หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาดการณ์จะเป็นผลบวกกับค่าเงิน USD (เศรษฐกิจแข็งแรง) และกดดันราคาทองคำให้ปรับลดลง แต่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ จะเป็นผลลบกับค่าเงิน USD (เศรษฐกิจอ่อนแอกว่าคาด) และผลักดันให้ทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ บทความโดย โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน
Message us