การลงทุนและการวิ่งมาราธอนมีจุดร่วมหลายอย่างที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เพื่อให้เข้าใจแนวทางการลงทุนที่ดีขึ้น
1. ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน
นักวิ่งมาราธอนต้องกำหนดเป้าหมายว่าจะวิ่งระยะทางเท่าไหร่และทำเวลาแค่ไหน นักลงทุนเองก็ต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน เช่น การเกษียณเร็ว การสร้างกระแสเงินสด หรือการปกป้องความมั่งคั่ง
2. ต้องเตรียมตัวและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีใครสามารถตื่นขึ้นมาแล้ววิ่งมาราธอนได้เลยโดยไม่ฝึกซ้อม เช่นเดียวกับการลงทุนที่ต้องศึกษาหาความรู้ วิเคราะห์ตลาด และฝึกฝนวินัยในการบริหารเงินทุน
3. ต้องมีวินัยและความอดทน
มาราธอนต้องใช้ความอดทน ไม่สามารถเร่งสปีดตั้งแต่เริ่มต้นได้ เพราะจะหมดแรงกลางทาง การลงทุนก็เช่นกัน นักลงทุนต้องอดทนและมีวินัย ไม่ตื่นตระหนกเมื่อราคาผันผวน
4. ต้องมีแผนและกลยุทธ์ที่เหมาะสม
นักวิ่งต้องมีกลยุทธ์ เช่น ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจหรือการเติมพลังงานในระหว่างวิ่ง นักลงทุนก็ต้องมีกลยุทธ์ เช่น การกระจายความเสี่ยงหรือการจัดการพอร์ตโฟลิโอให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด
5. ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
นักวิ่งมาราธอนต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้าและอาการบาดเจ็บ แต่มืออาชีพจะมีจิตใจที่เข้มแข็งและสู้ต่อ นักลงทุนเองก็ต้องเจอกับความผันผวนของตลาดและแรงกดดันทางอารมณ์ ต้องมีสติและไม่หวั่นไหว
6. ต้องรู้จักการฟื้นตัวและพักผ่อน
หลังจากการวิ่งมาราธอน นักวิ่งต้องมีการพักฟื้นเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันครั้งต่อไป นักลงทุนก็ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุดพัก หยุดเทรดชั่วคราวเพื่อประเมินสถานการณ์และฟื้นฟูจิตใจ
สรุป
การลงทุนและการวิ่งมาราธอนต่างต้องใช้ความรู้ ความอดทน วินัย และกลยุทธ์ที่ดี คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่คนที่เร็วที่สุดในระยะสั้น แต่เป็นคนที่สามารถรักษาความสม่ำเสมอและเดินหน้าไปถึงเส้นชัยได้ในระยะยาว
นายศรัญญู โกศินานนท์ (โอ๊ต)