ความรู้ทั่วไป

Blog

บทความที่น่าสนใจ

จงโฟกัสที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ เพื่อความสำเร็จในการเทรดที่ยั่งยืน

หลายคนที่เข้ามาในตลาด Forex ถูกดึงดูดด้วยความสามารถในการทำกำไรที่รวดเร็วเนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่มีการใช้ Leverages สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามักจะหลงไปกับสิ่งล่อตาล่อใจอย่างเช่นกำไรจากคนอื่นที่เห็นตามโซเชียลมีเดีย บทความนี้ผมอยากบอกทุกคนว่าที่จริงแล้ว ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถทำกำไรได้มากแค่ไหนในครั้งเดียว แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืนหรือไม่ทำไมการโฟกัสที่กระบวนการจึงสำคัญ ? การวางแผน : การเทรดที่ดีไม่ใช่แค่การเข้า – ออก ออเดอร์ตามความรู้สึก แต่ต้องมาจากการวางแผนอย่างละเอียดและมีเหตุผลชัดเจน การควบคุมความเสี่ยง : ไม่มีใครที่สามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง แต่การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการสูญเสียเงินทุน และปกป้องกำไรที่ทำได้ การตั้ง stop loss และการคำนวณการออก lot อย่างเหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษการสร้างวินัยในการเทรด: เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นเพราะความมีวินัยในการทำตามแผนที่วางไว้ การฝึกฝนและยึดมั่นในกลยุทธ์จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความผันผวนของตลาดได้โดยไม่หลงทาง ข้อเสียของการโฟกัสที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวการมองแค่ผลลัพธ์ หรือมองแค่กำไร อาจทำให้เราติดอยู่ในความโลภ ซึ่งอาจทำให้เราใช้อารมณ์ในการตัดสินใจในการเทรด ซึ่งมันอาจทำให้เรานั้นพลาดโอกาสสำคัญ หรือทำให้สูญเสียกำไรที่ทำได้ การโฟกัสที่กำไรอย่างเดียวนั้นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในการเทรดเลย เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการของตัวเองด้วย ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนคิดเอาไว้เสมอว่า ความสำเร็จในตลาดนั้นไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง การวางแผน การจัดการความเสี่ยง และความมีวินัยในการเทรด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างกำไรที่มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว อย่าให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ในระยะสั้น หรือเพียงแค่กำไรชั่วคราว จนหลงลืมความสำคัญของกระบวนการในการเทรดที่ดีที่ดี ถ้าเราสามารถโฟกัสที่กระบวนการได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเอง ครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ตลาดแล้วอยู่รอดในตลาดได้อย่างยั่งยืนทุกคนนะครับโค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ คือ “ตั้ง SL ให้เป็น วาง MM ให้พอ รอ TP ให้ได้” การตั้ง Stop Loss (SL) หรือการตัดขาดทุน เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกของการออก Order เพราะหาก Order ของเราไม่กำไรอย่างที่เราคาดหวัง การตัดขาดทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการลด Bias ที่เราจะยอมทนขาดทุนเพื่อหวังให้ราคากลับมากำไร ซึ่งในท้ายที่สุด ราคามักจะไม่กลับมาให้เรากำไรและ Order นั้นจะโดนลากขาดทุนจนทำให้พอร์ตเสียหายหนักจนเราต้องปิด Order อยู่ดี ทั้งจากการปิด Order เองหรือโดนระบบบังคับปิดให้ (พอร์ตแตก) การวาง Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการจัดการกับความเสี่ยงของพอร์ต ซึ่งในการออก Order นั้นการระบุความเสี่ยงที่เรารับได้ต่อครั้งและต่อวัน จะเรียกว่าการกำหนด Position Sizing ที่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น การออก Order ต่อครั้งเราจะตั้ง SL ไม่เกินกี่จุด หรือความเสียหายต่อวันจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นของพอร์ต เพราะหากเราปล่อยให้พอร์ตเสียหายหนักขึ้นเรื่อย การจะทำให้พอร์ตกลับมาบวกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จุด Take Profit (TP) หมายถึงจุดที่เราจะทำกำไรจากการซื้อขาย ซึ่งจุด TP ที่ดีที่สุดจะไม่มีใครสามารถบอกเราได้ เพราะ TP จะขึ้นกับความพอใจและกลยุทธ์ของเรา เราต้องตามหาตัวเองให้เจอว่าความเหมาะสมและความพอใจของเราอยู่ตรงไหน จะได้เทรดอย่างมีความสุขในระยะยาว อย่างไรก็ดี การตั้งจุด TP ที่ดี ค่า Risk to Reward Ratio (RR) ควรมีค่ามากกว่า 1:1 ขึ้นไป หากเราฝึกทำ 3 ข้อข้างต้นให้เป็นติดนิสัย เราจะสามารถปั้นพอร์ตให้เติบโตให้ระยะยาวได้อย่างแน่นอน บทความโดย โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป

ความแตกต่างระหว่าง Good Trader และ Bad Trader

1.การเรียนรู้และวางแผน Good Trader : ศึกษาและวางแผนการเทรด ก่อนเริ่มเทรดเสมอBad Trader : เทรดตามความรู้สึก เทรดด้วยหู ไม่วิเคราะห์ด้วยตนเอง 2.การจัดการความเสี่ยงGood Trader : จัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เช่น ตั้ง TP, SL และ กำหนด Lot size ที่เหมาะสมเสมอBad Trader : ไม่สนใจการจัดการความเสี่ยง เทรดแบบ Over lot ไม่ตั้ง Stoploss มองการเทรดเป็นการพนัน 3.ความมีวินัย และการควบคุมอารมณ์Good Trader : มีวินัย เทรดตามแผนการที่วางไว้ ไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องกับการเทรดBad Trader : ใช้อารมณ์และความรู้สึก เข้ามาเป็นส่วนตัดสินใจในการเทรด 4.การจดบันทึกการเทรดและปรับปรุงวิธีการเทรดGood Trader : จดบันทึกการเทรดอยู่เสมอ ไม่สนว่าจะชนะหรือแพ้ เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงวิธีการเทรดอยู่เสมอBad Trader : ไม่ติดตามผลการเทรด ทำผิดพลาดในรูปแบบเดิมซ้ำๆ ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด 5.การบริหารจัดการเวลาGood Trader : รู้จักแบ่งเวลาสำหรับการเรียนรู้ วิเคราะห์ วางแผน รวมถึงรู้จักรอถ้าไม่มีจังหวะให้เทรดอยู่เสมอBad Trader : เทรดตลอดเวลา เสพติดการมี Position และอยากเทรดอยู่เสมอ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันระหว่าง Good Trader และ Bad Trader ซึ่งหากใครยังมีพฤติกรรมที่ยังเป็น Bad Trader อยู่ ผมอยากแนะนำให้เริ่มพัฒนาตนเองได้แล้ว เพราะการพัฒนาตนเองให้เป็น Good Trader เราจะต้องใช้เวลาในการพยายามเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการที่จะเป็น Good Trader ได้นั้นคือเราต้องมีวินัย และทำตามแผนการที่วางไว้ก่อนเริ่มทำการเทรดให้สม่ำเสมอด้วยโค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

ผลตอบแทนยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ All Weather Portfolio สร้างกำไรได้ในทุกสภาวะ

ในโลกของการเงินและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส, หนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนทุกคนควรมี ในอาวุธของตนคือ Dollar Index (DXY).

ความรู้ทั่วไป

Dollar Index: เครื่องมือลับที่ทรงพลัง สำหรับนักลงทุน

ในโลกของการเงินและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส, หนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนทุกคนควรมี ในอาวุธของตนคือ Dollar Index (DXY).

ความรู้ทั่วไป

How To เทรดอย่างไร ให้ไม่กลายเป็นสภาพคล่องตลาด

ในโลกของการเงินและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส, หนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนทุกคนควรมี ในอาวุธของตนคือ Dollar Index (DXY).

ความรู้ทั่วไป
Message us