ข่าวรายวัน

Blog

บทความที่น่าสนใจ

ข่าว Existing Home Sales 21/11/2024

รายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เป็นตัวเลขวัดการเปลี่ยนแปลงในจำนวนอาคารที่อยู่อาศัยมือสองทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดที่ถูกซื้อขายในเดือนที่ผ่านมา จัดทำโดย National Association of Realtors ซึ่งในรายงานจะแบ่งเป็นยอดขายและราคาขายในแต่ละโซนตามภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกา (Northeast, Midwest, South, West) โดยรายงานนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์และเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดถึงความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ พิจารณาเรื่องการปรับขึ้น หรือ ลดอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนี้จะเป็นสิ่งที่ส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งกระทบในทางลบต่อราคาทองคำโดยตรง และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอีกด้วย สำหรับตัวเลข Existing Home Sales ประจำเดือนกันยายนนี้ที่จะรายงานในคืนนี้ ถูกคาดการณ์ไว้ที่ 3.94 ล้านยูนิต ซึ่งคาดว่าจะมีปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งค่าออกมาที่ 3.84 ล้านยูนิตเล็กน้อย ทั้งนี้ถ้าดูจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่เเล้วที่ออกมาไม่ต่างจากคาดการณ์มากนัก ก็ส่งผลให้สามารถมองว่าตัวเลขยอดขายบ้านมือสองนี้ อาจออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ได้ครับ บทความโดย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน

Core Retail Sales หรือ การรายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน 15/11/2024

Core Retail Sales หรือ การรายงานยอดขายปลีกพื้นฐาน ถือเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุด ที่บ่งชี้ถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค คือเป็นมูลค่ายอดขายสินค้า หรือบริการให้กับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งเป็นรายงานที่จะบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าทั้งหมดของยอดขายในธุรกิจขายปลีกทั้งหมดในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ เช่น ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย ของตกแต่งบ้าน อาหารและเครื่องดื่ม และอีกมากมาย แต่จะยกเว้นยอดขายของบริษัทรถยนต์และน้ำมัน โดยรายงานยอดค้าปลีกพื้นฐานนี้ จะเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญมาก และยังสามารถบ่งบอกแนวโน้มการขยายตัว หรือหดตัว ของเศรษฐกิจในอนาคตได้ด้วย โดยตัวเลขที่ออกมาหากมีค่าดีกว่าคาดการณ์จะเป็นผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และตลาดหุ้น เนื่องจากยอดขายของแต่ละบริษัทก็จะมีแนวโน้มดีขึ้นด้วย แต่ในทางกลับกัน ก็จะกดดันราคาทองให้เกิดการปรับตัวลงได้เช่นเดียวกัน ในทางกลับกัน หากค่าที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ก็จะกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทอง ทำให้ราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ ในการรายงานครั้งที่ผ่านมา ตัวเลขยอดขายปลีกพื้นฐานออกมามากกว่าคาด ที่ 0.5% ซึ่งถือว่าเติบโตเยอะพอสมควร ซึ่งในส่วนของคืนนี้ค่าประมาณการที่ตลาดคาดจะอยู่ที่ 0.2% เท่าเดิมแสดงถึงมุมมองของนักลงทุนมองว่ายอดขายปลีกพื้นฐานอาจจะยังขยายตัวอยู่แต่ขยายตัวในระดับที่น้อยลงกว่าเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยครับ บทความโดย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน

CPI หรือ Consumer Price Index คือดัชนีราคาผู้บริโภค 13/11/2024

CPI หรือ Consumer Price Index คือดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นตัวเลขที่เอาไว้ชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ ที่สามารถเอาไว้ชี้วัดในส่วนของภาวะเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะถูกใช้ในการปรับปรุงอัตราเงินเดือน ให้สอดคล้องกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น แถมยังเป็นตัวเลขที่ชี้วัดอำนาจซื้อของผู้บริโภค กรณีตัวเลข CPI สูงขึ้นนั่นหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย ทำให้ตัวเลขของดอกเบี้ยมักจะสูงขึ้นด้วยเพื่อควบคุมความรุนแรงของเงินเฟ้อ และในทางกลับกัน หาก CPI อยู่ในระดับต่ำ แนวโน้มดอกเบี้ยก็มีโอกาสที่จะผ่อนคลายลงด้วยเช่นเดียวกัน โดยถ้าหากค่า CPI ออกมาดีกว่าคาดการณ์ จะมีแนวโน้มเป็นบวกต่อค่าเงิน USD ให้มีโอกาสแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองลงได้ แต่ถ้าหากค่าออกมาแย่กว่าคาดการณ์ ก็จะเป็นการกดดันค่าเงิน USD ให้อ่อนค่าลง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองได้ โดยในการประกาศตัวเลข CPI (%YoY) ครั้งล่าสุด ตัวเลขที่ออกมาอยู่ที่ 2.4% ซึ่งลดลงจากครั้งก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งก็ค่อยๆปรับเข้าสู่ความคาดหมายของ FED ที่ระดับ 2% โดยค่าคาดการณ์ในเดือนนี้ที่คาดการณ์ออกมาอยู่ที่ 2.6% ซึ่งถ้าหากค่าจริงออกมาใกล้เคียงกับคาดการณ์ จะแสดงออกว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้มีโอกาสที่ FED จะประกาศว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมได้ ดังนั้นต้องติดตามข้อมูลตัวเลขในคืนนี้กันอย่างใกล้ชิดนะครับ บทความโดย โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMI (Purchasing Managers Index)

ดัชนี PMI เป็นดัชนีที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการบริการ ย่อมาจาก Purchasing Managers Index หรือก็คือ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ เป็นตัวเลขที่รายงานเพื่อให้ข้อมูลทางด้านสภาวะทางเศรษฐกิจต่อนักลงทุน นักวิเคราะห์ และประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นการสำรวจกลุ่มผู้ประกอบการฝ่ายจัดซื้อภาคเอกชน โดยครั้งนี้จะเป็นการรายงานเกี่ยวกับภาคการบริการซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาคการผลิตเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า หากกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มจะเติบโตในช่วง 1 ไตรมาสหน้า ทางผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อย่อมต้องเร่งสั่งซื้อวัตถุติบตั้งแต่วันนี้ ดังนั้น หากผลสำรวจผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อบ่งชี้ว่า มีการซื้อวัตถุดิบเพิ่มมากขึ้น ย่อมแสดงถึงแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ การใช้ดัชนี PMI นอกจากสะท้อนสภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิต และบริการในปัจจุบันแล้ว ยังสะท้อนมุมมองสภาพเศรษฐกิจในอนาคตอีกด้วย โดยดัชนีนี้จะมีค่าอยู่ที่ 0 – 100 โดยหากค่าตัวเลขที่ออกมามีค่าเกิน 50 จะเป็นตัวชี้วัดว่าระบบเศรษฐกิจมีการขยายตัว และจะไปหนุน USD แต่ถ้าตัวเลขใดออกมาต่ำกว่า 50 จะมีมุมมองว่าเศรษฐกิจหดตัว และมีแนวโน้มจะไปกดดันในส่วนของ USD โดยตัวเลขที่ผ่านมาในช่วงเดือนก่อนหน้า จะเห็นว่าค่าจริงที่ออกมาจะเห็นว่าค่าจากสถาบัน ISM จะออกมาต่ำกว่าทางสถาบัน S&P Global เเต่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 50 หน่วย ซึ่งบ่งบอกถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ได้เเย่ลงมากนัก ซึ่งจากคาดการณ์รอบนี้จะเห็นว่าทั้งสองสถาบันยังคงให้มุมมองที่ 55.3 (S&P Global) และ 53.7 (ISM) ซึ่งแสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่เติบโตเล็กน้อย เเต่ด้วยความผันผวนในการประกาศตัวเลขรอบที่ผ่านมา ทำให้ในรอบนี้นักลงทุนอาจต้องติดตามค่าที่จะออกมาอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะค่าคาดการณ์จากทั้งสองแหล่งมองว่าจะออกมาไม่เท่ากันด้วย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน

Non-Farm Payroll 01/11/2024 ตัวเลข Non-Farm Payroll หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร

ตัวเลข Non-Farm Payroll หรือ การจ้างงานนอกภาคเกษตร จะวัดจำนวนคนงานในสหรัฐอเมริกา ยกเว้นคนงานในภาคเกษตรกรรม ครัวเรือนส่วนตัว พนักงานองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และทหารที่ประจำการ โดยรายงานจะจัดทำโดย สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) โดยจะสำรวจหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนของพวกเขา ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะถูกรายงานต่อสาธารณะทุกๆ วันศุกร์แรกของเดือน เรามาทำความเข้าใจเรื่อง Nonfarm Payroll กันจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ การจัดประเภทพนักงานนอกภาคเกษตรคิดเป็นประมาณ 80% ของภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีส่วนทำให้เกิดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ดังนั้นการรายงานตัวเลขนี้จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) : หากตัวเลขที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ มักทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เพราะจะสื่อถึงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากต่ำกว่าที่คาดการณ์ ค่าเงินดอลลาร์อาจอ่อนตัวลง ตลาดหุ้น : หากรายงานตัวเลขที่ออกมาแข็งแกร่ง อาจส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เพราะมันบ่งบอกถึงความเจริญทางเศรษฐกิจและความสามารถของบริษัทในการขยายธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ถ้าตัวเลขสูงเกินไป อาจทำให้นักลงทุนกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น ก็สามารถส่งผลลบต่อหุ้นได้ ทองคำ (XAUUSD) : ทองคำมักจะมีความสัมพันธ์ทางลบกับค่าเงินดอลลาร์ หากค่าที่ออกมาดีกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำร่วงลง ในทางกลับกัน หากรายงานตัวเลขต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทองคำอาจปรับตัวขึ้นได้ โดยรายงานในเดือนที่ผ่านมา ตัวเลขออกมาที่ 254 K ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มากเกือบเท่าตัว ซึ่งถือว่าตัวเลขผันผวนมากๆ ซึ่งในสัปดาห์นี้ตัวเลขคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ออกมาที่ 111 K ตำแหน่ง ซึ่งลดลงจากรอบที่เเล้วกว่าครึ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งมุมมองจากค่าคาดการณ์อาจสื่อถึงการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มลดลงมาก ทำให้เป็นผลเสียต่อภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยรวมได้ครับ โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

Preview PCE หรือ Personal Consumption Expenditures ดัชนีค่าใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล 31/10/2024

ดัชนี PCE เป็นตัววัดการใช้จ่ายในสินค้าและบริการของชาวอเมริกัน ซึ่งสะท้อนสภาวะอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมาจากข้อมูลของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา PCE คิดเป็นสัดส่วนประมาณสองในสามของการใช้จ่ายในประเทศ และเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ยอดรวมโดยประมาณสำหรับ PCE ได้รับการรวบรวมโดย BEA เพื่อวัดและติดตามการเปลี่ยนแปลงในการใช้จ่ายด้านสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ในปี 2012 ดัชนีราคา PCE กลายเป็นดัชนีเงินเฟ้อหลักที่ใช้โดย Federal Reserve ในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน Fed ชอบ PCE มากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) PCE สะท้อนการเปลี่ยนแปลงการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ดีขึ้น เช่น การเลือกสินค้าทดแทนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาครอบคลุมการใช้จ่ายได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ PCE ยังถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจทางธุรกิจ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเชื่อถือได้มากกว่าการสำรวจผู้บริโภคที่ CPI โดยในตัวเลข PCE ที่จะประกาศในวันนี้ หากเราวิเคราะห์ตามอดีตย้อนหลัง 3 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าค่าที่ออกมาจะถดถอยลงเล็กน้อย และหากเปรียบเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 0.3% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย ซึ่งแสดงถึงความกล้าในการบริโภคของประชาชนเริ่มเพิ่มขึ้นอาจแสดงถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่ค่อยๆดีขึ้นได้ โค้ชนนท์ 26/07/2024

ข่าวรายวัน

ข่าววันพุธที่ 30/10/2024 :ADP Non-Farm Employment Change

ADP Non-Farm Employment Change หรือ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งยึดตามข้อมูลการคิดเงินเดือนจากกิจการธุรกิจต่างๆ ประมาณ 400,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริการ หรือที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เรียกกันว่า Non-Farm เล็ก ตัวเลขนี้ เป็นข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาก่อนตัวเลขข้อมูล Non – Farm Payroll ของทางรัฐบาล ที่ประกาศโดย Automatic Data – Processing Inc ที่เป็นผู้จัดหาและให้บริการเครื่องมือด้านทรัพยากรบุคคลในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ที่ให้บริการทั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซลูชั่นมือถือเพื่อแก้ปัญหาด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะสามารถแสดงถึงแนวโน้มการปรับตัว ขึ้น – ลง ของตัวเลข Non – Farm Payroll ได้ ตัวเลข ADP Non-Farm นี้จะเป็นตัวเลขที่เกิดจากการวิเคราะห์การจ้างงานนอกภาคการเกษตร โดยจะแบ่งการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกเป็น 3 รูปแบบ กรณีตัวเลข ADP Non-Farm ออกมา เราสามารถตีความตัวเลขนี้ได้โดย จากค่าที่ออกมาในครั้งก่อนหน้า จะเห็นว่าตัวเลขนี้มีค่าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ 3 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยในเดือนที่แล้วค่าที่ออกมาที่ 143 K ซึ่งลดลงต่ำกว่าคาดการณ์พอสมควร สำหรับเดือนนี้ค่าที่คาดการณ์จะอยู่ที่ 101K ซึ่งภาพรวมแล้วถ้าค่าออกมาตามคาดการณ์ อาจแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานจะค่อยๆ ปรับตัวลดลง ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขการว่างงานประจำสัปดาห์ในเดือนตุลาคมที่ปรับตัวลดลงมากกว่าเดือนก่อนหน้า ดังนั้นซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจอาจจะยังคงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดอยู่ครับ โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

JOLTs : Job Openings and Labor Turnover Survey 29/10/2024

คือการรายงานหรือการสำรวจตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาเป็นรายเดือน ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการบ่งบอกอัตราตำแหน่งว่างงานในเดือนนั้นๆ โดยข้อมูลที่ประกาศออกมาจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ว่างในตลาดแรงงาน รวมถึงการหมุนเวียนแรงงาน โดยตัวเลขตำแหน่งว่างงานจะเป็นตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดรับสมัคร ในวันทำการสุดท้ายของเดือน ซึ่งไม่รวมฝั่งอุตสาหกรรมการเกษตร โดยตัวเลขนี้จำชี้วัดตำแหน่งงานที่ว่าง ที่ยังไม่ได้รับการจ้างคนเข้าไปทำงาน ตัวเลข JOLTs นี้มีความสำคัญคือการให้ภาพรวมที่ครอบคลุมของตลาดแรงงานมากกว่าข้อมูลอัตราว่างงานรายสัปดาห์ มักจะถูกใช้เป็นหนึ่งในมาตรวัดสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นเราจะเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่มีประกาศตัวเลขนี้ กราฟมักจะมีความผันผวนเสมอ ซึ่งหากค่าประกาศออกมามากกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานน้อยกว่าคาด จะเป็นการส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงได้ แต่หากค่าออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานมากกว่าที่คาด จะเป็นการกดดันค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะเป็นผลบวกต่อทอง จากตัวเลขที่ออกมาล่าสุด จะเห็นว่าตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐนั้นมีการเพิ่มขึ้นพอสมควรที่ 8.040 ล้านตำแหน่ง โดยในวันนี้ ค่าที่คาดการณ์ออกมาจากนักวิเคราะห์มองว่าจะตำแหน่งว่างงานใหม่มีโอกาสลดลงจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 7.920 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถ้าออกมาตามคาดจริงก็จะแสดงถึงว่าตลาดแรงงานจะถือว่ากลับมาเเข็งแกร่งขึ้นพอสมควร ดังนั้นเราอยากให้โฟกัสตัวเลขที่จะประกาศออกมาในคืนนี้ให้ดีด้วยครับ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานเหล่านีจะเชื่อมโยงไปยังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ได้ นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

รายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales)

รายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เป็นตัวเลขวัดการเปลี่ยนแปลงในจำนวนอาคารที่อยู่อาศัยมือสองทั้งบ้านเดี่ยวและคอนโดที่ถูกซื้อขายในเดือนที่ผ่านมา จัดทำโดย National Association of Realtors ซึ่งในรายงานจะแบ่งเป็นยอดขายและราคาขายในแต่ละโซนตามภูมิภาคของประเทศสหรัฐอเมริกา (Northeast, Midwest, South, West) โดยรายงานนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์และเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดถึงความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจในภาพรวม โดยตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ พิจารณาเรื่องการปรับขึ้น หรือ ลดอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนี้จะเป็นสิ่งที่ส่งผลบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งกระทบในทางลบต่อราคาทองคำโดยตรง และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการแสดงออกถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอีกด้วย สำหรับตัวเลข Existing Home Sales ประจำเดือนกันยายนนี้ที่จะรายงานในคืนนี้ ถูกคาดการณ์ไว้ที่ 3.88 ล้านยูนิต ซึ่งคาดว่าจะมีปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งค่าออกมาที่ 3.86 ล้านยูนิตเล็กน้อย ทั้งนี้ถ้าดูจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่เเล้วที่ออกมาดีกว่าคาดเเทบทั้งกระดาน ก็ส่งผลให้สามารถมองว่าตัวเลขยอดขายบ้านมือสองนี้ อาจออกมาดีกว่าคาด หรือใกล้เคียงกับคาดการณ์ได้ครับ บทความโดย โค้ชนนท์

ข่าวรายวัน
Message us