Blog

บทความที่น่าสนใจ

ADP Non-Farm Employment Change

ADP Non-Farm Employment Change หรือ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ซึ่งยึดตามข้อมูลการคิดเงินเดือนจากกิจการธุรกิจต่างๆ ประมาณ 400,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริการ หรือที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เรียกกันว่า Non-Farm เล็ก ตัวเลขนี้ เป็นข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาก่อนตัวเลขข้อมูล Non – Farm Payroll ของทางรัฐบาล ที่ประกาศโดย Automatic Data – Processing Inc ที่เป็นผู้จัดหาและให้บริการเครื่องมือด้านทรัพยากรบุคคลในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ที่ให้บริการทั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซลูชั่นมือถือเพื่อแก้ปัญหาด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นตัวเลขที่จะสามารถแสดงถึงแนวโน้มการปรับตัว ขึ้น – ลง ของตัวเลข Non – Farm Payroll ได้ ตัวเลข ADP Non-Farm นี้จะเป็นตัวเลขที่เกิดจากการวิเคราะห์การจ้างงานนอกภาคการเกษตร โดยจะแบ่งการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกเป็น 3 รูปแบบบริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงาน 1 – 49 คนบริษัทขนาดกลางซึ่งมีพนักงาน 50 – 499 คนบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานตั้งแต่ 500 คน ขึ้นไป กรณีตัวเลข ADP Non-Farm ออกมา เราสามารถตีความตัวเลขนี้ได้โดยถ้าหาตัวเลขมีค่าสูงขึ้นมากกว่าเดิม หมายความว่ามีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรมากขึ้น แสดงได้ถึงว่าภาพรวมเศรษฐกิจกำลังเติบโต ฃส่งผลให้ USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเป็นผลลบต่อราคาทองคำถ้าหากตัวเลขมีค่าลดลงต่ำกว่าเดิม หมายความว่าการจ้างงานน้อยลง แสดงได้ถึงว่าภาพรวมเศรษฐกิจอาจกำลังชะลอตัว ส่งผลให้ USD มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำจากค่าที่ออกมาในครั้งก่อนหน้า จะเห็นว่าตัวเลขนี้มีค่าออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ 3 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยในเดือนที่แล้วค่าที่ออกมาที่ 122 K ซึ่งลดลงต่ำกว่าคาดการณ์พอสมควร สำหรับเดือนนี้ค่าที่คาดการณ์จะอยู่ที่ 136K ซึ่งภาพรวมแล้วถ้าค่าออกมาตามคาดการณ์ อาจแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจอาจจะยังไม่แย่อย่างที่กังวลกันก่อนหน้านี้ โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

Routine ประจำวันสำหรับเทรดเดอร์

ปฏฺิเสธไม่ได้ครับว่าการที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความเร็จได้ต้องมีระเบียบ วินัย และเป้าหมายที่ชัดเจนรวมไปถึงระเบียบเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน หรือที่เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า Routine มักจะเป็นอะไรที่เราทำเป็นประจำ สม่ำเสมอชีวิตเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จที่ผมเจอ ไม่ได้มีความหวือหวามากมายซักเท่าไหร่ จริงๆ แล้วแทบจะวนลูปเสียด้วยซ้ำแต่ถ้าลองทำตามนี้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีสูง เช่นกันRoutine ผมจะแบ่งเป็นสามช่วงตามนี้1.ช่วงแรก ช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเทรด Jacky Dxacademy

ความรู้ทั่วไป

จงโฟกัสที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ เพื่อความสำเร็จในการเทรดที่ยั่งยืน

หลายคนที่เข้ามาในตลาด Forex ถูกดึงดูดด้วยความสามารถในการทำกำไรที่รวดเร็วเนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่มีการใช้ Leverages สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามักจะหลงไปกับสิ่งล่อตาล่อใจอย่างเช่นกำไรจากคนอื่นที่เห็นตามโซเชียลมีเดีย บทความนี้ผมอยากบอกทุกคนว่าที่จริงแล้ว ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถทำกำไรได้มากแค่ไหนในครั้งเดียว แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืนหรือไม่ทำไมการโฟกัสที่กระบวนการจึงสำคัญ ? การวางแผน : การเทรดที่ดีไม่ใช่แค่การเข้า – ออก ออเดอร์ตามความรู้สึก แต่ต้องมาจากการวางแผนอย่างละเอียดและมีเหตุผลชัดเจน การควบคุมความเสี่ยง : ไม่มีใครที่สามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง แต่การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการสูญเสียเงินทุน และปกป้องกำไรที่ทำได้ การตั้ง stop loss และการคำนวณการออก lot อย่างเหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษการสร้างวินัยในการเทรด: เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นเพราะความมีวินัยในการทำตามแผนที่วางไว้ การฝึกฝนและยึดมั่นในกลยุทธ์จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความผันผวนของตลาดได้โดยไม่หลงทาง ข้อเสียของการโฟกัสที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียวการมองแค่ผลลัพธ์ หรือมองแค่กำไร อาจทำให้เราติดอยู่ในความโลภ ซึ่งอาจทำให้เราใช้อารมณ์ในการตัดสินใจในการเทรด ซึ่งมันอาจทำให้เรานั้นพลาดโอกาสสำคัญ หรือทำให้สูญเสียกำไรที่ทำได้ การโฟกัสที่กำไรอย่างเดียวนั้นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในการเทรดเลย เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการของตัวเองด้วย ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนคิดเอาไว้เสมอว่า ความสำเร็จในตลาดนั้นไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง การวางแผน การจัดการความเสี่ยง และความมีวินัยในการเทรด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างกำไรที่มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว อย่าให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ในระยะสั้น หรือเพียงแค่กำไรชั่วคราว จนหลงลืมความสำคัญของกระบวนการในการเทรดที่ดีที่ดี ถ้าเราสามารถโฟกัสที่กระบวนการได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเอง ครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ตลาดแล้วอยู่รอดในตลาดได้อย่างยั่งยืนทุกคนนะครับโค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ คือ “ตั้ง SL ให้เป็น วาง MM ให้พอ รอ TP ให้ได้” การตั้ง Stop Loss (SL) หรือการตัดขาดทุน เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกของการออก Order เพราะหาก Order ของเราไม่กำไรอย่างที่เราคาดหวัง การตัดขาดทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการลด Bias ที่เราจะยอมทนขาดทุนเพื่อหวังให้ราคากลับมากำไร ซึ่งในท้ายที่สุด ราคามักจะไม่กลับมาให้เรากำไรและ Order นั้นจะโดนลากขาดทุนจนทำให้พอร์ตเสียหายหนักจนเราต้องปิด Order อยู่ดี ทั้งจากการปิด Order เองหรือโดนระบบบังคับปิดให้ (พอร์ตแตก) การวาง Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการจัดการกับความเสี่ยงของพอร์ต ซึ่งในการออก Order นั้นการระบุความเสี่ยงที่เรารับได้ต่อครั้งและต่อวัน จะเรียกว่าการกำหนด Position Sizing ที่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น การออก Order ต่อครั้งเราจะตั้ง SL ไม่เกินกี่จุด หรือความเสียหายต่อวันจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นของพอร์ต เพราะหากเราปล่อยให้พอร์ตเสียหายหนักขึ้นเรื่อย การจะทำให้พอร์ตกลับมาบวกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จุด Take Profit (TP) หมายถึงจุดที่เราจะทำกำไรจากการซื้อขาย ซึ่งจุด TP ที่ดีที่สุดจะไม่มีใครสามารถบอกเราได้ เพราะ TP จะขึ้นกับความพอใจและกลยุทธ์ของเรา เราต้องตามหาตัวเองให้เจอว่าความเหมาะสมและความพอใจของเราอยู่ตรงไหน จะได้เทรดอย่างมีความสุขในระยะยาว อย่างไรก็ดี การตั้งจุด TP ที่ดี ค่า Risk to Reward Ratio (RR) ควรมีค่ามากกว่า 1:1 ขึ้นไป หากเราฝึกทำ 3 ข้อข้างต้นให้เป็นติดนิสัย เราจะสามารถปั้นพอร์ตให้เติบโตให้ระยะยาวได้อย่างแน่นอน บทความโดย โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป

Job Openings and Labor Turnover Survey

คือการรายงานหรือการสำรวจตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาเป็นรายเดือน ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการบ่งบอกอัตราตำแหน่งว่างงานในเดือนนั้นๆ โดยข้อมูลที่ประกาศออกมาจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่ว่างในตลาดแรงงาน รวมถึงการหมุนเวียนแรงงาน โดยตัวเลขตำแหน่งว่างงานจะเป็นตำแหน่งทั้งหมดที่เปิดรับสมัคร ในวันทำการสุดท้ายของเดือน ซึ่งไม่รวมฝั่งอุตสาหกรรมการเกษตร โดยตัวเลขนี้จำชี้วัดตำแหน่งงานที่ว่าง ที่ยังไม่ได้รับการจ้างคนเข้าไปทำงาน ตัวเลข JOLTs นี้มีความสำคัญคือการให้ภาพรวมที่คลอบคลุมของตลาดแรงงานมากกว่าข้อมูลอัตราว่างงานรายสัปดาห์ มักจะถูกใช้เป็นหนึ่งในมาตรวัดสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นเราจะเห็นว่า เมื่อใดก็ตามที่มีประกาศตัวเลขนี้ กราฟมักจะมีความผันผวนเสมอ ซึ่งหากค่าประกาศออกมามากกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานน้อยกว่าคาด จะเป็นการส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงได้ แต่หากค่าออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ หรือว่างงานมากกว่าที่คาด จะเป็นการกดดันค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งก็จะเป็นผลบวกต่อทองจากตัวเลขที่ออกมาล่าสุด จะเห็นว่าตำแหน่งว่างงานใหม่ของสหรัฐนั้นมีการปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแสดงถึงภาพรวมว่าตลาดแรงงานค่อยๆ อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องมา 2 เดือนติดต่อกันแล้ว โดยในวันนี้ ค่าที่คาดการณ์ออกมาจากนักวิเคราะห์มองว่าจะตำแหน่งว่างงานใหม่มีโอกาสลดลงจากเดือนก่อนหน้าพอสมควรที่ 8.090 ล้านตำแหน่ง ซึ่งถ้าออกมาตามคาดได้จริงก็จะแสดงถึงว่าตลาดแรงงานอาจกลับมาแข็งแกร่งขึ้นจากเดือนที่แล้วเล็กน้อยได้ครับ โดย นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวรายวัน

GDP ของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2/2024

เมื่อคืนวันที่ 29/08/2567 ที่ผ่านมา ช่วง 19:30 น. ได้มีการเผยแพร่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งมีสองประเด็นหลักที่ควรทราบดังนี้ ตัวข้อมูล GDP ที่สูงเกินคาดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงเติบโตได้แม้ดอกเบี้ยยังคงสูงอย่างในปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้ Fed ตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยลดลงทีละน้อยได้ ในขณะที่ตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งอาจลดแรงกดดันให้ Fed ดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นซึ่งจะเห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐก็มีการปรับตัวขึ้นทันทีหลังจากที่ตัวเลขประกาศออกมาทันที เพราะว่าตัวเลขนี้สะท้อนกว่าภาคการบริโภคของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง และยังคงเป็นแนวโน้มของการเกิด soft landing ได้ และตัวเลขดังกล่าวยังเหมือนเป็นอีกสัญญาณว่า FED ยังไม่ได้ช้าเกินไปที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ข่าวรายวัน

ความแตกต่างระหว่าง Good Trader และ Bad Trader

1.การเรียนรู้และวางแผน Good Trader : ศึกษาและวางแผนการเทรด ก่อนเริ่มเทรดเสมอBad Trader : เทรดตามความรู้สึก เทรดด้วยหู ไม่วิเคราะห์ด้วยตนเอง 2.การจัดการความเสี่ยงGood Trader : จัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เช่น ตั้ง TP, SL และ กำหนด Lot size ที่เหมาะสมเสมอBad Trader : ไม่สนใจการจัดการความเสี่ยง เทรดแบบ Over lot ไม่ตั้ง Stoploss มองการเทรดเป็นการพนัน 3.ความมีวินัย และการควบคุมอารมณ์Good Trader : มีวินัย เทรดตามแผนการที่วางไว้ ไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องกับการเทรดBad Trader : ใช้อารมณ์และความรู้สึก เข้ามาเป็นส่วนตัดสินใจในการเทรด 4.การจดบันทึกการเทรดและปรับปรุงวิธีการเทรดGood Trader : จดบันทึกการเทรดอยู่เสมอ ไม่สนว่าจะชนะหรือแพ้ เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงวิธีการเทรดอยู่เสมอBad Trader : ไม่ติดตามผลการเทรด ทำผิดพลาดในรูปแบบเดิมซ้ำๆ ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด 5.การบริหารจัดการเวลาGood Trader : รู้จักแบ่งเวลาสำหรับการเรียนรู้ วิเคราะห์ วางแผน รวมถึงรู้จักรอถ้าไม่มีจังหวะให้เทรดอยู่เสมอBad Trader : เทรดตลอดเวลา เสพติดการมี Position และอยากเทรดอยู่เสมอ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันระหว่าง Good Trader และ Bad Trader ซึ่งหากใครยังมีพฤติกรรมที่ยังเป็น Bad Trader อยู่ ผมอยากแนะนำให้เริ่มพัฒนาตนเองได้แล้ว เพราะการพัฒนาตนเองให้เป็น Good Trader เราจะต้องใช้เวลาในการพยายามเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการที่จะเป็น Good Trader ได้นั้นคือเราต้องมีวินัย และทำตามแผนการที่วางไว้ก่อนเริ่มทำการเทรดให้สม่ำเสมอด้วยโค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

ผลกระทบของค่าเงินบาทแข็งค่าและการเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก

เข้าใจผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่า พร้อมกลยุทธ์สำคัญในการปรับตัวเพื่อปกป้องธุรกิจและการลงทุนในยุคที่เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ข่าวรายวัน

Private Course

โปรโมชั่นคอร์ส Private คอร์สดีที่สุดของเรา

โปรโมชั่น
Message us