คุณเคยได้ยินเรื่องกลยุทธ์การลงทุนแบบ “All Weather Portfolio” หรือพอร์ตที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจบ้างหรือไม่? วันนี้เราจะมาเปิดเผยความลับของกลยุทธ์การลงทุนสุดยอดแบบนี้ที่ได้รับการยกย่องจากตำนานนักลงทุนระดับโลกอย่าง Ray Dalio
All Weather Portfolio เป็นแนวคิดการจัดพอร์ตการลงทุนของ Bridgewater Associates บริษัทบริหารกองทุนรวมขนาดยักษ์ มีทุนจัดการมหาศาลกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในทุกสภาวะตลาด ด้วยการกระจายการลงทุนไปในหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้งที่มีความสัมพันธ์และไม่มีความสัมพันธ์กัน
แนวคิดหลักของ All Weather คือการแบ่งแยกแหล่งที่มาของผลตอบแทนออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
1. ผลตอบแทนจากเงินสดและตราสารหนี้ระยะสั้น อาทิ เงินฝากประจำ ตั๋วแลกเงิน ซึ่งให้ผลตอบแทนต่ำแต่มีสภาพคล่องสูง
2. ผลตอบแทนจากกลุ่มสินทรัพย์หลัก (Beta) อาทิ หุ้นสามัญ พันธบัตรรัฐบาล สินค้าโภคภัณฑ์ เงินตราต่างประเทศ โดยกำไรขาดทุนจะผันแปรตามสภาวะตลาด
3. ผลตอบแทนจากการเทรดหรือกลยุทธ์การลงทุนพิเศษ (Alpha) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่าตลาด โดยอาศัยจังหวะการเข้าซื้อขาย ปัจจัยพื้นฐาน หรือเทคนิคการวิเคราะห์ที่ชาญฉลาด
โดยที่กลยุทธ์นี้มีจุดเด่นสำคัญคือ การลงทุนกระจายไปในหลายสินทรัพย์และแหล่งผลตอบแทนที่แตกต่างกัน จึงไม่ต้องพึ่งพาสภาวะตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่องแม้สภาวะเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงไป
นอกจากนี้ All Weather Portfolio ยังให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลการลงทุน (Rebalancing) ตามโอกาสที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการลดหรือเพิ่มสัดส่วนเงินสด การเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำ การขายทำกำไรในสินทรัพย์ที่ปรับตัวสูงเกินไป รวมถึงการลงทุนเพิ่มเติมในกลยุทธ์พิเศษที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีในรอบนั้นๆ
สำหรับนักลงทุนรายย่อย การนำหลักการของ All Weather Portfolio มาประยุกต์ใช้ ด้วยการตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่ 10% บนระดับความเสี่ยงไม่เกิน 10% ถือเป็นเรื่องท้าทายพอสมควร แต่ก็เป็นไปได้หากมีการวางแผนและบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ด้วยการกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่ชาญฉลาด ควบคู่ไปกับการติดตามสถานการณ์และปรับกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ
แน่นอนว่ากลยุทธ์นี้มีรายละเอียดและปัจจัยที่ต้องพิจารณาค่อนข้างมาก สิ่งสำคัญคือ การกำหนดสัดส่วนและบริหารจัดการให้มีสมดุลย์ระหว่างทั้ง 3 พอร์ตอย่างเหมาะสม มีการทบทวนและปรับสมดุลอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างพอร์ตเพื่อเพิ่มผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยง เช่น
- ลดสัดส่วนเงินสด นำไปลงทุนในพอร์ทุน เมื่อเห็นโอกาสจากภาวะตลาด
- ลดสัดส่วนพอร์ทุนบางส่วน นำมาสู่พอร์ตกลยุทธ์เมื่อมีจังหวะการเทรดที่ดี
- เพิ่มเงินสด จากการขายทำกำไรสินทรัพย์ที่แพงเกินไป
- ปรับสมดุลประเภททรัพย์สิน เมื่อมีบางสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนตกต่ำ
ทั้งนี้สัดส่วนการลงทุนและการปรับสมดุลขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ทุนเริ่มต้น ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ความชำนาญและประสบการณ์ของนักลงทุน รวมถึงเครื่องมือและข้อมูลที่มีในการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์
การจัดพอร์ตแบบ All Weather เป็นกลยุทธ์ที่ซับซ้อนแต่ก็สร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างยั่งยืน หากนักลงทุนสามารถบริหารได้อย่างเหมาะสม มีวินัยในการติดตามสถานการณ์ ปรับสมดุลอย่างสม่ำเสมอ และรู้จักประยุกต์ใช้กลยุทธ์เฉพาะกิจให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ