How To เทรดอย่างไร ให้ไม่กลายเป็นสภาพคล่องตลาด

เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมเราเจอตัดขาดทุน (SL) แล้วเจอการเด้งสวนขึ้นมาเลย 


หลายคนอาจจะเคยได้ยินในชื่อ Liquidity ที่แปลว่าสภาพคล่องการซื้อขาย 

แต่ในที่นี้เราจะมาดูกันถึง Liquidity 

ในเชิงการเทรดที่นี่จะหมายถึงโซนที่มีการซื้อขายปริมาณมากๆ 

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะอยู่ตามบริเวณ 

– แนวรับ – แนวต้าน คนส่วนใหญ่มักชอบตั้ง Order บริเวณนี้ค่อนข้างมาก

– High/Low สำคัญ เมื่อจุดไหนคนส่วนใหญ่มองไปทิศทางเดียวกัน หลายครั้งเคยสังเกตุไหมครับว่าทิศทางมักไปตรงกันข้าม
เช่น หลุดแนวรับดันหลุดมาเพียงเล็กน้อยแล้วราคากลับตัวทิศทางขาขึ้นอย่างรุนแรง หรือ อธิบายง่ายๆ คือ จากลงมาเป็นขึ้น ขึ้นเป็นลง

ซึ่งนักลงทุนรายใหญ่มักจะชอบดันราคาเพื่อมาให้มาให้โดน SL ข้างต้นเพื่อที่จะได้รับของถูก 
ทำไมต้องซื้อแพงในเมื่อมีโอกาสที่จะได้รับของราคาที่ถูกได้ 

ฉะนั้น 
ถ้าคนส่วนใหญ่มองเหมือนกันราคามักจะไม่ไปได้ไกล 
กลไก Zero sum game ยังคงใช้ได้เสมอ

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

ทำไมไม่ควร Sell สวน เมื่อสินทรัพย์ขึ้น All Time High?

เมื่อราคาของสินทรัพย์อย่าง Bitcoin (BTC) ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) นั่นแปลว่ามีคนเชื่อมั่นและเข้าซื้อเยอะมากจนราคาพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ การ Sell สวนในจังหวะนี้จึงมีความเสี่ยงสูง เพราะเราไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นไปอีกแค่ไหน หรือจะหยุดตรงไหน การเปิด Sell ตอนที่ตลาดยังคงเป็นขาขึ้นที่แรง อาจทำให้ขาดทุนได้ง่าย ตัวอย่าง BTC ตอนนี้ที่ราคาสูงถึง $80,000 BTC กำลังทำจุดสูงสุดใหม่ นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเข้าซื้อและเชื่อว่าราคาจะไปได้ไกลกว่านี้ การสวน Sell อาจทำให้เราต้องรับมือกับแรงซื้อที่ดันราคาขึ้นไปต่อ ถ้าอยากเทรดจริง ๆ ควรรอให้ตลาดมีสัญญาณว่ากำลังจะปรับตัวลงก่อน ไม่ควร Sell สวนในแนวโน้มขาขึ้นที่ยังแข็งแรง

ความรู้ทั่วไป

กราฟเบรกจริง หรือเบรกหลอก สังเกตยังไง?

ในหลากหลายรูปแบบการเทรด การเทรดแบบเบรกเอ้าท์ (Breakout) ของราคาตามแนวต้าน มักจะเป็นสัญญาณที่นักเทรดให้ความสนใจ เพราะเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้สำเร็จ มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรง และวอลุ่มการซื้อขายอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกการเบรกที่เกิดขึ้นจะเป็น “เบรกจริง” ดังนั้น การแยกแยะระหว่าง “การเบรกจริง” และ “การเบรกหลอก” จึงเป็นทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไม่พลาดง่ายๆ และสามารถช่วยลดการขาดทุนที่ไม่พึ่งประสงค์ได้ การเบรกจริงคืออะไร? การเบรกจริงเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านแล้วเคลื่อนไหวต่อไปอย่างมั่นคง ซึ่งมักจะนำไปสู่แนวโน้มใหม่ ในกรณีนี้ ราคาจะได้รับการสนับสนุนจากแรงซื้อหรือแรงขายที่แข็งแกร่งพอที่จะดันให้ราคาก้าวไปในทิศทางที่ทะลุออกไป เบรกหลอกคืออะไร? การเบรกหลอกเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นกลับเคลื่อนที่ย้อนกลับเข้าสู่กรอบราคาเดิม ทำให้เทรดเดอร์ที่เข้าออร์เดอร์ทันทีต้องเผชิญกับการขาดทุนจากการที่ราคาย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว การแยกแยะระหว่างเบรกจริงและเบรกหลอกเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ ควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ Volume, แท่งเทียน, และแนวโน้มของตลาด รวมถึงต้องพยายามรอการยืนยันการเบรกเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเข้าใจและจัดการกับเบรกหลอกได้ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการขาดทุน และเพิ่มความมั่นใจในการเทรดในระยะยาวได้ สำหรับบทความนี้จะบอกถึงหลักการสังเกต เเต่ในบทความรอบหน้าจะมีการยกตัวอย่างให้ด้วย ติดตามกันไว้ได้เลยครับ นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

“อาชีพเทรดเดอร์… อาชีพมหัศจรรย์ที่ใครก็สร้างได้”

ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชีพมากมาย มีเพียงไม่กี่อาชีพที่สามารถมอบทั้งอิสรภาพทางเวลาและการเงินได้พร้อมกัน ซึ่ง “เทรดเดอร์” เป็นหนึ่งในอาชีพเหล่านั้น ความมหัศจรรย์ของอาชีพนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด แต่ต้องย้ำไว้เสมอว่า อาชีพนี้มหัศจรรย์ แต่ไม่ง่าย สรุป อาชีพเทรดเดอร์อาจเป็นอาชีพที่ “มหัศจรรย์” แต่ความมหัศจรรย์นั้นมาพร้อมกับความยากลำบาก เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญความล้มเหลว ความไม่แน่นอน และการต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเสมอ การเทรดเปรียบเสมือนการออกเรือสู่มหาสมุทรกว้างใหญ่ บางวันเราต้องเผชิญพายุ บางวันลมอาจสงบจนแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน แต่หากเรามีเข็มทิศ (ความรู้) พายเรือด้วยจังหวะที่มั่นคง (วินัย) และมีเป้าหมายปลายทางชัดเจน (ความมุ่งมั่น) เราจะเดินทางถึงฝั่งฝันได้ ความสำเร็จในอาชีพเทรดเดอร์ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชค แต่เกิดจากการฝึกฝนและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้ง ใครที่พร้อมรับมือกับความท้าทาย อาชีพนี้จะมอบอิสระและโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดให้กับเราอย่างแท้จริง โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป
Message us