วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ คือ “ตั้ง SL ให้เป็น วาง MM ให้พอ รอ TP ให้ได้”

การตั้ง Stop Loss (SL) หรือการตัดขาดทุน เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกของการออก Order เพราะหาก Order ของเราไม่กำไรอย่างที่เราคาดหวัง การตัดขาดทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการลด Bias ที่เราจะยอมทนขาดทุนเพื่อหวังให้ราคากลับมากำไร ซึ่งในท้ายที่สุด ราคามักจะไม่กลับมาให้เรากำไรและ Order นั้นจะโดนลากขาดทุนจนทำให้พอร์ตเสียหายหนักจนเราต้องปิด Order อยู่ดี ทั้งจากการปิด Order เองหรือโดนระบบบังคับปิดให้ (พอร์ตแตก)

การวาง Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการจัดการกับความเสี่ยงของพอร์ต ซึ่งในการออก Order นั้นการระบุความเสี่ยงที่เรารับได้ต่อครั้งและต่อวัน จะเรียกว่าการกำหนด Position Sizing ที่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น การออก Order ต่อครั้งเราจะตั้ง SL ไม่เกินกี่จุด หรือความเสียหายต่อวันจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นของพอร์ต เพราะหากเราปล่อยให้พอร์ตเสียหายหนักขึ้นเรื่อย การจะทำให้พอร์ตกลับมาบวกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

จุด Take Profit (TP) หมายถึงจุดที่เราจะทำกำไรจากการซื้อขาย ซึ่งจุด TP ที่ดีที่สุดจะไม่มีใครสามารถบอกเราได้ เพราะ TP จะขึ้นกับความพอใจและกลยุทธ์ของเรา เราต้องตามหาตัวเองให้เจอว่าความเหมาะสมและความพอใจของเราอยู่ตรงไหน จะได้เทรดอย่างมีความสุขในระยะยาว อย่างไรก็ดี การตั้งจุด TP ที่ดี ค่า Risk to Reward Ratio (RR) ควรมีค่ามากกว่า 1:1 ขึ้นไป

หากเราฝึกทำ 3 ข้อข้างต้นให้เป็นติดนิสัย เราจะสามารถปั้นพอร์ตให้เติบโตให้ระยะยาวได้อย่างแน่นอน

บทความโดย โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

ทำไมไม่ควร Sell สวน เมื่อสินทรัพย์ขึ้น All Time High?

เมื่อราคาของสินทรัพย์อย่าง Bitcoin (BTC) ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) นั่นแปลว่ามีคนเชื่อมั่นและเข้าซื้อเยอะมากจนราคาพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ การ Sell สวนในจังหวะนี้จึงมีความเสี่ยงสูง เพราะเราไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นไปอีกแค่ไหน หรือจะหยุดตรงไหน การเปิด Sell ตอนที่ตลาดยังคงเป็นขาขึ้นที่แรง อาจทำให้ขาดทุนได้ง่าย ตัวอย่าง BTC ตอนนี้ที่ราคาสูงถึง $80,000 BTC กำลังทำจุดสูงสุดใหม่ นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเข้าซื้อและเชื่อว่าราคาจะไปได้ไกลกว่านี้ การสวน Sell อาจทำให้เราต้องรับมือกับแรงซื้อที่ดันราคาขึ้นไปต่อ ถ้าอยากเทรดจริง ๆ ควรรอให้ตลาดมีสัญญาณว่ากำลังจะปรับตัวลงก่อน ไม่ควร Sell สวนในแนวโน้มขาขึ้นที่ยังแข็งแรง

ความรู้ทั่วไป

กราฟเบรกจริง หรือเบรกหลอก สังเกตยังไง?

ในหลากหลายรูปแบบการเทรด การเทรดแบบเบรกเอ้าท์ (Breakout) ของราคาตามแนวต้าน มักจะเป็นสัญญาณที่นักเทรดให้ความสนใจ เพราะเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้สำเร็จ มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรง และวอลุ่มการซื้อขายอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกการเบรกที่เกิดขึ้นจะเป็น “เบรกจริง” ดังนั้น การแยกแยะระหว่าง “การเบรกจริง” และ “การเบรกหลอก” จึงเป็นทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไม่พลาดง่ายๆ และสามารถช่วยลดการขาดทุนที่ไม่พึ่งประสงค์ได้ การเบรกจริงคืออะไร? การเบรกจริงเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านแล้วเคลื่อนไหวต่อไปอย่างมั่นคง ซึ่งมักจะนำไปสู่แนวโน้มใหม่ ในกรณีนี้ ราคาจะได้รับการสนับสนุนจากแรงซื้อหรือแรงขายที่แข็งแกร่งพอที่จะดันให้ราคาก้าวไปในทิศทางที่ทะลุออกไป เบรกหลอกคืออะไร? การเบรกหลอกเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นกลับเคลื่อนที่ย้อนกลับเข้าสู่กรอบราคาเดิม ทำให้เทรดเดอร์ที่เข้าออร์เดอร์ทันทีต้องเผชิญกับการขาดทุนจากการที่ราคาย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว การแยกแยะระหว่างเบรกจริงและเบรกหลอกเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ ควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ Volume, แท่งเทียน, และแนวโน้มของตลาด รวมถึงต้องพยายามรอการยืนยันการเบรกเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเข้าใจและจัดการกับเบรกหลอกได้ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการขาดทุน และเพิ่มความมั่นใจในการเทรดในระยะยาวได้ สำหรับบทความนี้จะบอกถึงหลักการสังเกต เเต่ในบทความรอบหน้าจะมีการยกตัวอย่างให้ด้วย ติดตามกันไว้ได้เลยครับ นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

“อาชีพเทรดเดอร์… อาชีพมหัศจรรย์ที่ใครก็สร้างได้”

ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชีพมากมาย มีเพียงไม่กี่อาชีพที่สามารถมอบทั้งอิสรภาพทางเวลาและการเงินได้พร้อมกัน ซึ่ง “เทรดเดอร์” เป็นหนึ่งในอาชีพเหล่านั้น ความมหัศจรรย์ของอาชีพนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด แต่ต้องย้ำไว้เสมอว่า อาชีพนี้มหัศจรรย์ แต่ไม่ง่าย สรุป อาชีพเทรดเดอร์อาจเป็นอาชีพที่ “มหัศจรรย์” แต่ความมหัศจรรย์นั้นมาพร้อมกับความยากลำบาก เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญความล้มเหลว ความไม่แน่นอน และการต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเสมอ การเทรดเปรียบเสมือนการออกเรือสู่มหาสมุทรกว้างใหญ่ บางวันเราต้องเผชิญพายุ บางวันลมอาจสงบจนแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน แต่หากเรามีเข็มทิศ (ความรู้) พายเรือด้วยจังหวะที่มั่นคง (วินัย) และมีเป้าหมายปลายทางชัดเจน (ความมุ่งมั่น) เราจะเดินทางถึงฝั่งฝันได้ ความสำเร็จในอาชีพเทรดเดอร์ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชค แต่เกิดจากการฝึกฝนและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้ง ใครที่พร้อมรับมือกับความท้าทาย อาชีพนี้จะมอบอิสระและโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดให้กับเราอย่างแท้จริง โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป
Message us