จงโฟกัสที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ เพื่อความสำเร็จในการเทรดที่ยั่งยืน

หลายคนที่เข้ามาในตลาด Forex ถูกดึงดูดด้วยความสามารถในการทำกำไรที่รวดเร็วเนื่องจากตลาดนี้เป็นตลาดที่มีการใช้ Leverages สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรามักจะหลงไปกับสิ่งล่อตาล่อใจอย่างเช่นกำไรจากคนอื่นที่เห็นตามโซเชียลมีเดีย บทความนี้ผมอยากบอกทุกคนว่าที่จริงแล้ว ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถทำกำไรได้มากแค่ไหนในครั้งเดียว แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอและยั่งยืนหรือไม่
ทำไมการโฟกัสที่กระบวนการจึงสำคัญ ?


การวางแผน : การเทรดที่ดีไม่ใช่แค่การเข้า – ออก ออเดอร์ตามความรู้สึก แต่ต้องมาจากการวางแผนอย่างละเอียดและมีเหตุผลชัดเจน


การควบคุมความเสี่ยง : ไม่มีใครที่สามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง แต่การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการสูญเสียเงินทุน และปกป้องกำไรที่ทำได้ การตั้ง stop loss และการคำนวณการออก lot อย่างเหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
การสร้างวินัยในการเทรด: เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นเพราะความมีวินัยในการทำตามแผนที่วางไว้ การฝึกฝนและยึดมั่นในกลยุทธ์จะช่วยให้เราสามารถเผชิญหน้ากับความผันผวนของตลาดได้โดยไม่หลงทาง


ข้อเสียของการโฟกัสที่ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว
การมองแค่ผลลัพธ์ หรือมองแค่กำไร อาจทำให้เราติดอยู่ในความโลภ ซึ่งอาจทำให้เราใช้อารมณ์ในการตัดสินใจในการเทรด ซึ่งมันอาจทำให้เรานั้นพลาดโอกาสสำคัญ หรือทำให้สูญเสียกำไรที่ทำได้ การโฟกัสที่กำไรอย่างเดียวนั้นจะทำให้เราไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในการเทรดเลย เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการของตัวเองด้วย


ดังนั้นผมอยากให้ทุกคนคิดเอาไว้เสมอว่า ความสำเร็จในตลาดนั้นไม่ได้มาจากโชค แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำตามกระบวนการที่ถูกต้อง การวางแผน การจัดการความเสี่ยง และความมีวินัยในการเทรด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างกำไรที่มีคุณภาพและยั่งยืนในระยะยาว อย่าให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ในระยะสั้น หรือเพียงแค่กำไรชั่วคราว จนหลงลืมความสำคัญของกระบวนการในการเทรดที่ดีที่ดี ถ้าเราสามารถโฟกัสที่กระบวนการได้อย่างเต็มที่ ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเอง ครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ตลาดแล้วอยู่รอดในตลาดได้อย่างยั่งยืนทุกคนนะครับ
โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

การลงทุนในตลาดทองคำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ / นักลงทุนที่ไม่มีเวลาเฝ้าจอ

การลงทุนในตลาดทองคำเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการสร้างความมั่นคงในระยะยาวและเป็นสิ่งที่เอาไว้ปกป้องเงินทุนจากสภาวะเงินเฟ้อได้ดีเป็นอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำยังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่พึ่งจะเข้ามาในตลาดการลงทุนอีกด้วย การลงทุนในทองคำแบ่งได้เป็น1.การลงทุนในกองทุนทองคำ ( Gold Funds )หนึ่งในวิธีที่สะดวกที่สุดในการลงทุนในทองคำสำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่มีเวลาเฝ้าจอคือการลงทุนในกองทุนทองคำ (Gold Funds) หรือ ETF ที่อิงกับราคาทองคำ กองทุนเหล่านี้จะทำหน้าที่บริหารจัดการเงินลงทุนในทองแทนผู้ลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ทำให้นักลงทุนมือใหม่ไม่ต้องคอยติดตามเฝ้าตลอดเวลา2.การใช้บัญชีทองแบบสะสม ( Gold Saving Accounts )หลายธนาคารในปัจจุบันมีบริการบัญชีทองคำแบบสะสม ซึ่งได้รับอนุญาตให้คุณลงทุนในทองคำได้ทีละไม่มาก โดยไม่ต้องซื้อทองคำทีละเป็นแท่ง บัญชีเหล่านี้จะให้เราสามารถแบ่งซื้อทองได้ เช่น ทีละ 1 กรัม หรือ 5 กรัม และถอนออกมาเป็นทองคำจริงๆ ได้ในราคาตลาด โค้ชโอ๊ต DX Academy

ความรู้ทั่วไป

Routine ประจำวันสำหรับเทรดเดอร์

ปฏฺิเสธไม่ได้ครับว่าการที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความเร็จได้ต้องมีระเบียบ วินัย และเป้าหมายที่ชัดเจนรวมไปถึงระเบียบเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน หรือที่เราอาจจะเคยได้ยินคำว่า Routine มักจะเป็นอะไรที่เราทำเป็นประจำ สม่ำเสมอชีวิตเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จที่ผมเจอ ไม่ได้มีความหวือหวามากมายซักเท่าไหร่ จริงๆ แล้วแทบจะวนลูปเสียด้วยซ้ำแต่ถ้าลองทำตามนี้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีสูง เช่นกันRoutine ผมจะแบ่งเป็นสามช่วงตามนี้1.ช่วงแรก ช่วงเตรียมความพร้อมก่อนเทรด Jacky Dxacademy

ความรู้ทั่วไป

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ

วินัยในการเทรดเพื่อการกำไรในระยะยาวมีด้วยกัน 3 ข้อ คือ “ตั้ง SL ให้เป็น วาง MM ให้พอ รอ TP ให้ได้” การตั้ง Stop Loss (SL) หรือการตัดขาดทุน เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดไว้ตั้งแต่แรกของการออก Order เพราะหาก Order ของเราไม่กำไรอย่างที่เราคาดหวัง การตัดขาดทุนตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการลด Bias ที่เราจะยอมทนขาดทุนเพื่อหวังให้ราคากลับมากำไร ซึ่งในท้ายที่สุด ราคามักจะไม่กลับมาให้เรากำไรและ Order นั้นจะโดนลากขาดทุนจนทำให้พอร์ตเสียหายหนักจนเราต้องปิด Order อยู่ดี ทั้งจากการปิด Order เองหรือโดนระบบบังคับปิดให้ (พอร์ตแตก) การวาง Money Management (MM) คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการจัดการกับความเสี่ยงของพอร์ต ซึ่งในการออก Order นั้นการระบุความเสี่ยงที่เรารับได้ต่อครั้งและต่อวัน จะเรียกว่าการกำหนด Position Sizing ที่ต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า เช่น การออก Order ต่อครั้งเราจะตั้ง SL ไม่เกินกี่จุด หรือความเสียหายต่อวันจะต้องไม่เกินกี่เปอร์เซ็นของพอร์ต เพราะหากเราปล่อยให้พอร์ตเสียหายหนักขึ้นเรื่อย การจะทำให้พอร์ตกลับมาบวกก็จะยากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จุด Take Profit (TP) หมายถึงจุดที่เราจะทำกำไรจากการซื้อขาย ซึ่งจุด TP ที่ดีที่สุดจะไม่มีใครสามารถบอกเราได้ เพราะ TP จะขึ้นกับความพอใจและกลยุทธ์ของเรา เราต้องตามหาตัวเองให้เจอว่าความเหมาะสมและความพอใจของเราอยู่ตรงไหน จะได้เทรดอย่างมีความสุขในระยะยาว อย่างไรก็ดี การตั้งจุด TP ที่ดี ค่า Risk to Reward Ratio (RR) ควรมีค่ามากกว่า 1:1 ขึ้นไป หากเราฝึกทำ 3 ข้อข้างต้นให้เป็นติดนิสัย เราจะสามารถปั้นพอร์ตให้เติบโตให้ระยะยาวได้อย่างแน่นอน บทความโดย โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป
Message us