ความแตกต่างระหว่าง Good Trader และ Bad Trader

1.การเรียนรู้และวางแผน
Good Trader : ศึกษาและวางแผนการเทรด ก่อนเริ่มเทรดเสมอ
Bad Trader : เทรดตามความรู้สึก เทรดด้วยหู ไม่วิเคราะห์ด้วยตนเอง

2.การจัดการความเสี่ยง
Good Trader : จัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เช่น ตั้ง TP, SL และ กำหนด Lot size ที่เหมาะสมเสมอ
Bad Trader : ไม่สนใจการจัดการความเสี่ยง เทรดแบบ Over lot ไม่ตั้ง Stoploss มองการเทรดเป็นการพนัน

3.ความมีวินัย และการควบคุมอารมณ์
Good Trader : มีวินัย เทรดตามแผนการที่วางไว้ ไม่เอาอารมณ์มาเกี่ยวข้องกับการเทรด
Bad Trader : ใช้อารมณ์และความรู้สึก เข้ามาเป็นส่วนตัดสินใจในการเทรด

4.การจดบันทึกการเทรดและปรับปรุงวิธีการเทรด
Good Trader : จดบันทึกการเทรดอยู่เสมอ ไม่สนว่าจะชนะหรือแพ้ เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับปรุงวิธีการเทรดอยู่เสมอ
Bad Trader : ไม่ติดตามผลการเทรด ทำผิดพลาดในรูปแบบเดิมซ้ำๆ ไม่เรียนรู้จากความผิดพลาด

5.การบริหารจัดการเวลา
Good Trader : รู้จักแบ่งเวลาสำหรับการเรียนรู้ วิเคราะห์ วางแผน รวมถึงรู้จักรอถ้าไม่มีจังหวะให้เทรดอยู่เสมอ
Bad Trader : เทรดตลอดเวลา เสพติดการมี Position และอยากเทรดอยู่เสมอ

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมที่แตกต่างกันระหว่าง Good Trader และ Bad Trader ซึ่งหากใครยังมีพฤติกรรมที่ยังเป็น Bad Trader อยู่ ผมอยากแนะนำให้เริ่มพัฒนาตนเองได้แล้ว เพราะการพัฒนาตนเองให้เป็น Good Trader เราจะต้องใช้เวลาในการพยายามเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการที่จะเป็น Good Trader ได้นั้นคือเราต้องมีวินัย และทำตามแผนการที่วางไว้ก่อนเริ่มทำการเทรดให้สม่ำเสมอด้วย
โค้ชนนท์ พงศ์พล สุภกรรม

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

ทำไมไม่ควร Sell สวน เมื่อสินทรัพย์ขึ้น All Time High?

เมื่อราคาของสินทรัพย์อย่าง Bitcoin (BTC) ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) นั่นแปลว่ามีคนเชื่อมั่นและเข้าซื้อเยอะมากจนราคาพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ การ Sell สวนในจังหวะนี้จึงมีความเสี่ยงสูง เพราะเราไม่รู้ว่าราคาจะขึ้นไปอีกแค่ไหน หรือจะหยุดตรงไหน การเปิด Sell ตอนที่ตลาดยังคงเป็นขาขึ้นที่แรง อาจทำให้ขาดทุนได้ง่าย ตัวอย่าง BTC ตอนนี้ที่ราคาสูงถึง $80,000 BTC กำลังทำจุดสูงสุดใหม่ นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเข้าซื้อและเชื่อว่าราคาจะไปได้ไกลกว่านี้ การสวน Sell อาจทำให้เราต้องรับมือกับแรงซื้อที่ดันราคาขึ้นไปต่อ ถ้าอยากเทรดจริง ๆ ควรรอให้ตลาดมีสัญญาณว่ากำลังจะปรับตัวลงก่อน ไม่ควร Sell สวนในแนวโน้มขาขึ้นที่ยังแข็งแรง

ความรู้ทั่วไป

กราฟเบรกจริง หรือเบรกหลอก สังเกตยังไง?

ในหลากหลายรูปแบบการเทรด การเทรดแบบเบรกเอ้าท์ (Breakout) ของราคาตามแนวต้าน มักจะเป็นสัญญาณที่นักเทรดให้ความสนใจ เพราะเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้สำเร็จ มักตามมาด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรง และวอลุ่มการซื้อขายอย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกการเบรกที่เกิดขึ้นจะเป็น “เบรกจริง” ดังนั้น การแยกแยะระหว่าง “การเบรกจริง” และ “การเบรกหลอก” จึงเป็นทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์ไม่พลาดง่ายๆ และสามารถช่วยลดการขาดทุนที่ไม่พึ่งประสงค์ได้ การเบรกจริงคืออะไร? การเบรกจริงเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านแล้วเคลื่อนไหวต่อไปอย่างมั่นคง ซึ่งมักจะนำไปสู่แนวโน้มใหม่ ในกรณีนี้ ราคาจะได้รับการสนับสนุนจากแรงซื้อหรือแรงขายที่แข็งแกร่งพอที่จะดันให้ราคาก้าวไปในทิศทางที่ทะลุออกไป เบรกหลอกคืออะไร? การเบรกหลอกเกิดขึ้นเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นกลับเคลื่อนที่ย้อนกลับเข้าสู่กรอบราคาเดิม ทำให้เทรดเดอร์ที่เข้าออร์เดอร์ทันทีต้องเผชิญกับการขาดทุนจากการที่ราคาย้อนกลับไปอย่างรวดเร็ว การแยกแยะระหว่างเบรกจริงและเบรกหลอกเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ ควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ Volume, แท่งเทียน, และแนวโน้มของตลาด รวมถึงต้องพยายามรอการยืนยันการเบรกเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเข้าใจและจัดการกับเบรกหลอกได้ดีจะช่วยให้เราสามารถลดการขาดทุน และเพิ่มความมั่นใจในการเทรดในระยะยาวได้ สำหรับบทความนี้จะบอกถึงหลักการสังเกต เเต่ในบทความรอบหน้าจะมีการยกตัวอย่างให้ด้วย ติดตามกันไว้ได้เลยครับ นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ความรู้ทั่วไป

“อาชีพเทรดเดอร์… อาชีพมหัศจรรย์ที่ใครก็สร้างได้”

ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชีพมากมาย มีเพียงไม่กี่อาชีพที่สามารถมอบทั้งอิสรภาพทางเวลาและการเงินได้พร้อมกัน ซึ่ง “เทรดเดอร์” เป็นหนึ่งในอาชีพเหล่านั้น ความมหัศจรรย์ของอาชีพนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงศักยภาพในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด แต่ต้องย้ำไว้เสมอว่า อาชีพนี้มหัศจรรย์ แต่ไม่ง่าย สรุป อาชีพเทรดเดอร์อาจเป็นอาชีพที่ “มหัศจรรย์” แต่ความมหัศจรรย์นั้นมาพร้อมกับความยากลำบาก เทรดเดอร์ทุกคนต้องเผชิญความล้มเหลว ความไม่แน่นอน และการต่อสู้กับจิตใจของตัวเองเสมอ การเทรดเปรียบเสมือนการออกเรือสู่มหาสมุทรกว้างใหญ่ บางวันเราต้องเผชิญพายุ บางวันลมอาจสงบจนแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน แต่หากเรามีเข็มทิศ (ความรู้) พายเรือด้วยจังหวะที่มั่นคง (วินัย) และมีเป้าหมายปลายทางชัดเจน (ความมุ่งมั่น) เราจะเดินทางถึงฝั่งฝันได้ ความสำเร็จในอาชีพเทรดเดอร์ไม่ได้เกิดขึ้นจากโชค แต่เกิดจากการฝึกฝนและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดยั้ง ใครที่พร้อมรับมือกับความท้าทาย อาชีพนี้จะมอบอิสระและโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดให้กับเราอย่างแท้จริง โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป
Message us