การ Hedging คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ควรรู้จักเทคนิคนี้

ในโลกของการเทรด ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนควรเรียนรู้เอาไว้ โดยหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือการ Hedging ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่าการ Hedging คืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญในตลาดที่ผันผวน

ทำความเข้าใจ Hedging คืออะไรกันแน่ ?

  1. การ Hedging คืออะไร?
    Hedging คือการเปิดสถานะ (Position) ที่ตรงข้ามกับสถานะการลงทุนหลักของเราที่เราถืออยู่ เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด ตัวอย่างเช่น หากเราลงทุนในทองคำ และราคามีแนวโน้มจะปรับตัวลง เเต่เราถือกำไรฝั่ง Buy Position อยู่ เราสามารถเปิด Sell Position เพื่อป้องกันการที่กำไรจะหายไป ในกรณีที่ราคาลดลงอย่างมากได้
    การทำ Hedging ไม่ได้ช่วยให้คุณมีกำไรเพิ่มขึ้นโดยตรง หรือไม่ได้ช่วยให้ลดการขาดทุน แต่มันช่วยรักษามูลค่าของพอร์ตการลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดไม่แน่นอน
  2. ตัวอย่างการใช้ Hedging
    ลองจินตนาการว่าเราถือ Buy Position ในทองคำและมีกำไรเเล้ว เเต่ยังไม่อยากปิด แต่เริ่มกังวลว่าราคาอาจจะพักตัวลดลง เราก็สามารถเปิด Sell Position ในปริมาณ Lot size ที่เท่ากันในบัญชีเดียวกันหรือบัญชีแยกอื่นๆ เพื่อป้องกันการขาดทุนในกรณีที่ราคาลดลงจริงได้ เมื่อราคากลับมาสู่เทรนด์ขาขึ้น เราก็สามารถปิด Sell Position ที่มีกำไรอยู่ แล้วปล่อยให้ Buy Position ทำกำไรต่อตามแนวโน้มได้นั่นเอง
    • การ Hedging เหมาะกับใคร?
      นักลงทุนที่ต้องการลดความเสี่ยง: โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
    • เทรดเดอร์ที่ต้องการถือ Position ระยะยาว: เพื่อป้องกันการขาดทุนระหว่างทาง
    • ผู้ที่ลงทุนในหลายตลาด: เช่น ทองคำและค่าเงิน โดยใช้การ Hedging เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดใดตลาดหนึ่ง
  3. ข้อควรระวังในการ Hedging
    แม้ Hedging จะช่วยลดความเสี่ยงในการเทรดได้ แต่การใช้ Hedging ที่ไม่มีแผนการที่ชัดเจนอาจเพิ่มต้นทุนการเทรดของเราโดยไม่จำเป็นได้ เช่น ค่าคอมมิชชั่น หรือค่าธรรมเนียมการถือ Position นอกจากนี้ ในทางที่แย่ที่สุดคือถ้าหากตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่เราไม่ได้คาดหวัง เราก็อาจเสียโอกาสในการทำกำไร หรือถึงขั้นขาดทุนเลยได้เช่นเดียวกัน

นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

สรุปข่าวสุดสัปดาห์ : ทองคำปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย

สรุปข่าวสุดสัปดาห์ : ทองคำปรับตัวลงช่วงต้นสัปดาห์จากความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย ก่อนกลับตัวหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าคาด ต้นสัปดาห์ราคาทองคำฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงจากสาเหตุว่าอาจจะมีการลดดอกเบี้ยน้อยลงกว่าที่ FED คาดการณ์ไว้เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาดีกว่าคาดแบบท่วมท้น จนกระทั่งวันพฤหัสที่มีการประชุม FOMC จะเห็นได้ว่าเริ่มมีการพูดคุยกันถึงการลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงด้วย เเต่เมื่อตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำลงกว่าครั้งที่เเล้ว ก็ส่งผลให้ทองคำเริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะประกาศตัว PPI ออกมาต่ำกว่าคาดทำให้เกิดการปรับตัวขึ้นแรงในช่วงค่ำวันศุกร์ ด้านราคาน้ำมันสัปดาห์นี้หลังจากปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงความร้อนเเรงในการขึ้นได้อยู่ โดยมีสาเหตุอันเนื่องมาจากเหตุการความไม่สงบในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางยังคงเกิดขึ้น และข้อมูลจาก Intercontinental Exchange บ่งชี้ว่า บรรดาผู้จัดการกองทุนเพิ่มสถานะซื้อสุทธิในสัญญาน้ำมันดิบ เเต่ในอีกมุมหนึ่งก็เริ่มจะถูกกดดันจากสถานการณ์พายุเฮอริเคนมิลตัน ที่พัดถล่มฟลอริดาอย่างหนักด้วยเช่นกัน โดยในช่วงสัปดาห์หน้าแม้แนวโน้มของราคาน้ำมันอาจจะกลับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังคงมีโอกาสขึ้นต่อหากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอีก ส่วนทางด้านทองคำแม้จะปรับตัวขึ้นมาช่วงสุดสัปดาห์ เเต่ความน่ากังวลในเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะทำให้ค่าเงินดอลล่าร์เเข็งค่ามากขึ้นได้ ดังนั้นเราอยากให้นักลงทุนทุกท่านติดตามปัจจัยต่างๆ ที่จะกระทบต่อตลาดในสัปดาห์หน้าที่กล่าวถึงไว้ข้างต้นอย่างใกล้ชิดด้วยครับ By นนท์ พงศ์พล สุภกรรม

ข่าวสาร

เลือกกองทุนไหนกันดี???

ในโลกของการเงินและการลงทุนที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส, หนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนทุกคนควรมี ในอาวุธของตนคือ Dollar Index (DXY).

ข่าวสาร
Message us