เทรด forex

การเทรด สาย “Quant” คืออะไร? ความรู้ที่เทรดเดอร์ต้องมี

การเทรด Quant ย่อมาจากคำว่า Quantitative Analysis Trading หรือการเทรดโดยใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณ เป็นรูปแบบการเทรดที่อาศัย คณิตศาสตร์, สถิติ, และการประมวลผลข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ตลาดและสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยทดแทนการตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกของมนุษย์

องค์ประกอบหลักของ การเทรด Quantitative Analysis Trading

1. ข้อมูลและตัวเลข (Data)   การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เช่น ราคาหุ้น, ปริมาณการซื้อขาย, ตัวชี้วัดทางเทคนิค และข่าวสารตลา ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาแปลงเป็นรูปแบบตัวเลข เพื่อนำไปคำนวณและวิเคราะห์

2. การสร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Models)การสร้างโมเดลทางคณิตศาสตร์หรือสมการเพื่อคาดการณ์พฤติกรรมของตลาด เช่น โมเดลที่ใช้ใน การคาดการณ์แนวโน้ม, การหาความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์, หรือโมเดลความเสี่ยง  ตัวอย่างโมเดลเช่น Black-Scholes Model สำหรับการคำนวณราคาของออปชัน หรือ Mean Reversion Models สำหรับการเทรดระหว่างราคาเฉลี่ย

3. การใช้สถิติ (Statistical Analysis) การทดสอบสมมติฐาน, การคำนวณความน่าจะเป็น และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในตลาด เช่น การหาค่า Correlation หรือ Standard Deviation เพื่อตรวจจับความผันผวน

4. การเขียนโปรแกรมและอัลกอริทึม (Algorithmic Trading) ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลและสร้างกลยุทธ์การซื้อขายโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเครื่องมือที่นิยมใช้ เช่น Python, R, MATLAB, และ SQL

วิธีการทำงานของ Quantitative Trading

1. การรวบรวมข้อมูล (Data Collection) ดึงข้อมูลตลาดจากแหล่งต่าง ๆใน การเทรด เช่น ราคาย้อนหลัง, ปริมาณการซื้อขาย, ข้อมูลเศรษฐกิจ และข้อมูลทางเทคนิค

2. การวิเคราะห์และการสร้างโมเดล (Model Development) วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาเพื่อหาความสัมพันธ์, แนวโน้ม, และรูปแบบที่สามารถทำกำไรได้ ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ เช่น Linear Regression, Machine Learning หรือ Neural Networks

3. การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) นำกลยุทธ์ที่สร้างขึ้นไปทดสอบกับข้อมูลในอดีต เพื่อดูว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่

4. การปรับปรุงกลยุทธ์ (Optimization) ปรับแต่งโมเดลหรือกลยุทธ์เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง

5. การใช้งานจริง (Execution) นำโมเดลที่ผ่านการทดสอบไปใช้จริง โดยอาจเทรดผ่านระบบอัตโนมัติ (Algorithmic Trading)

ตัวอย่างแนวคิดและกลยุทธ์ใน Quantitative Trading

1. Mean Reversion Strategy

ใช้หลักการที่ว่าราคาสินทรัพย์มักจะกลับมาสู่ค่าเฉลี่ย เช่น หากราคาหลุดออกจาก Bollinger Bands ก็อาจซื้อหรือขายเมื่อกลับสู่กรอบ

2. Momentum Trading

อาศัยความเชื่อว่าหากสินทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นหรือลงอย่างแข็งแกร่ง ก็มีโอกาสที่แนวโน้มจะดำเนินต่อไป

3. Arbitrage Strategy

ใช้ประโยชน์จากความไม่สมดุลของราคาสินทรัพย์ในตลาดต่าง ๆ เช่น ซื้อถูกจากตลาดหนึ่งและขายแพงในอีกตลาดหนึ่ง

4. Statistical Arbitrage

ใช้การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างสินทรัพย์ 2 ตัว เช่น หุ้น A และ B ที่มีความสัมพันธ์สูง หากราคาหุ้นหนึ่งเบี่ยงเบนไปมาก ก็สามารถเข้าเทรดทำกำไร

5. Machine Learning and AI Trading

ใช้ AI และ Machine Learning ในการเรียนรู้ข้อมูลจำนวนมากและหากลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

ข้อดีของ Quantitative Analysis Trading

• ลดการใช้ อารมณ์ และความผิดพลาดจากมนุษย์

• สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

• เทรดได้อย่างแม่นยำและมีความเป็นระบบ

• ทดสอบกลยุทธ์ได้ก่อนนำไปใช้จริง

ข้อจำกัด

• ต้องใช้ ข้อมูลที่มีคุณภาพสูง และมีการประมวลผลที่ซับซ้อน

• ความเสี่ยงจากการ Overfitting เมื่อโมเดลทำงานได้ดีเฉพาะข้อมูลในอดีต

Quantitative Analysis Trading คือการผสานระหว่าง คณิตศาสตร์, สถิติ, การเขียนโปรแกรม และข้อมูลตลาด เพื่อนำมาสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการใช้เหตุผลและหลักการทางวิทยาศาสตร์แทนการคาดเดาหรือใช้อารมณ์ในการเทรด ทำให้เป็นแนวทางที่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและต้องการกลยุทธ์ที่มีความแม่นยำสูงครับ

โค้ชอ๊อฟ กิตติวัฒน์ คล้ายมณี 

แบ่งปั่นบทความ

บทความที่น่าสนใจ

การเทรด

“เตรียมพร้อมสำหรับ Holiday Season: วางแผน การเทรด อย่างไรให้ปลอดภัย?”

การเทรด ในช่วง เทศกาล Holiday Season และปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่หลายคนเฝ้ารอ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือเฉลิมฉลอง แต่สำหรับเทรดเดอร์ ช่วงเวลานี้กลับเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย เนื่องจากตลาดมักมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากช่วงเวลาปกติ การวางแผน เทรด forex ให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจในช่วงเทศกาล เตรียม การเทรด พร้อมอย่างไร สำหรับ Holiday Season ใน ตลาด Forex 1. คาดการณ์ความผันผวนของ ตลาด Forex การเทรด ช่วงเทศกาลปลายปี ตลาดมักมีสภาพคล่องต่ำ เนื่องจากนักลงทุนและสถาบันการเงินส่วนใหญ่พักการทำธุรกรรม ทำให้ราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนมากกว่าปกติ หรือในบางครั้งอาจเกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เราควรเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ 2. ปรับขนาด Position ให้เหมาะสม ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ควรลดขนาด Position เพื่อลดความเสี่ยง หากตลาดเคลื่อนไหวผิดทาง จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการขาดทุนมากเกินไป 3. กำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ชัดเจน การตั้งจุด Stop Loss และ Take Profit ล่วงหน้าจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจในการเทรด โดยเฉพาะในช่วงที่คุณอาจไม่ได้เฝ้าตลาดอย่างใกล้ชิด 4. เลี่ยงการเทรดในวันที่สภาพคล่องต่ำ วันหยุดนักขัตฤกษ์หรือวันทำการที่ใกล้วันหยุดมักมีปริมาณการซื้อขายต่ำ การเทรดในช่วงนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเจอการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หากไม่มั่นใจ ควรพักการเทรดในวันเหล่านี้ 5. ทบทวนแผนและประเมินผลในปีที่ผ่านมา ช่วงเทศกาลเป็นเวลาที่เหมาะสมในการทบทวนแผนการเทรดของคุณ ประเมินว่ากลยุทธ์ใดที่ได้ผล และสิ่งใดที่ควรปรับปรุง เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความพร้อมและเป้าหมายที่ชัดเจน สรุป เทรด forex ในช่วง Holiday Season การเทรด Holiday Season และเทศกาลปีใหม่ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาแห่งความสุข แต่ยังเป็นช่วงที่ตลาดต้องการการวางแผนและการบริหารความเสี่ยงที่ดี เทรดเดอร์ควรปรับตัวให้เหมาะสม ลดขนาด Position ใช้ Stop Loss และหลีกเลี่ยงการเทรดในวันที่สภาพคล่องต่ำ พร้อมทั้งใช้โอกาสนี้ประเมินผลและวางแผนสำหรับปีหน้า เพื่อสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืนในระยะยาว. โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป

“ขาดทุนในปี 2567 ไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้ สู้ต่อในปี 2568 เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ”

ปี 2567 อาจเป็นปีที่หนักสำหรับหลายคน โดยเฉพาะเทรดเดอร์และนักลงทุนที่ต้องเผชิญกับตลาดที่ไม่เป็นใจ การขาดทุนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณล้มเหลว เพราะบางครั้ง ความผิดพลาดคือ “ครูที่ดีที่สุด” ที่ช่วยให้เรามองเห็นเส้นทางที่ถูกต้องชัดเจนขึ้น ลองนึกถึงฟ้าหลังฝน แม้เมฆจะครึ้มและพายุจะดูน่ากลัว แต่เมื่อฝนหยุดตก ท้องฟ้าจะกลับมาสดใสอีกครั้ง เช่นเดียวกับการขาดทุน มันไม่ได้เป็นจุดจบของเส้นทางการลงทุน แต่เป็นโอกาสให้เราเรียนรู้ วิเคราะห์ และพัฒนากลยุทธ์ใหม่ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปี 2568 กำลังมาถึง และมันคือจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นใหม่ ลองย้อนกลับไปทบทวนการตัดสินใจที่ผ่านมา คุณอาจพบว่าบางครั้งตลาดไม่ได้เป็นตัวปัญหา แต่เป็นเพราะเราขาดแผนที่ชัดเจนหรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ดังนั้น อย่าลังเลที่จะตั้งเป้าหมายใหม่ ปรับปรุงแนวทาง และลงมือทำอีกครั้ง อย่าลืมว่า ความสำเร็จไม่ได้มาจากการไม่เคยล้ม แต่เกิดจากการลุกขึ้นใหม่ทุกครั้งที่ล้มลง ทุกคนที่ประสบความสำเร็จในตลาด ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือนักลงทุนระดับโลก ต่างก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขารู้ดีว่าการขาดทุนเป็นเพียงหนึ่งในก้าวเล็กๆ บนเส้นทางที่ยาวไกล ท้ายที่สุด การขาดทุนไม่ได้บ่งบอกว่าเราล้มเหลว แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับปี 2568 ด้วยความมุ่งมั่นและพลังใหม่ เพราะทุกบทเรียนที่ได้จากปีที่ผ่านมา จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่พาเราไปสู่ความสำเร็จในอนาคต “ตลาดอาจไม่ใจดีกับคุณเสมอ แต่จงมั่นใจว่าคุณจะใจดีกับตัวเอง และลุกขึ้นสู้ต่อไป” โค้ชบิ๊ก กรกฎ อภิปัญญา

ความรู้ทั่วไป

ทองคำ VS Bitcoin ในปี 2025 อะไรที่จะมาเป็นสินทรัพย์ที่ดีที่สุด

การเปรียบเทียบระหว่างทองคำ และ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันเงินเฟ้อในอนาคต มีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับมุมมองและสถานการณ์ในตลาดเศรษฐกิจโลกดังนี้ ทองคำ ข้อดี ข้อเสีย Bitcoin ข้อดี ข้อเสีย สรุป การป้องกันเงินเฟ้อในอนาคตอาจจะเป็นการลงทุนแบบผสมผสานทั้ง 2 สินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละประเภทรับได้ โค้ชโอ๊ต ศรัญญู โกศินานนท์

ความรู้ทั่วไป
Message us